กำลังมองหาแพสวยๆ ชิคๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอยู่รึเปล่า ? ถ้าใช่ ทางนี้ๆๆ..
ที่ ‘เดอะโฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท’ นอกจากห้องพักจะดีงามแล้ว อาหารยังอร่อย ที่สำคัญคือมีกิจกรรมให้ทำไม่เบื่อแน่นอน อ่านรีวิวนี้จบก็ชวนเพื่อน ชวนแฟน หรือ ครอบครัวไปพักได้เล้ยยยยยยย
วิธีการเดินทาง
ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ จากกรุงเทพฯมาได้ 2 เส้นทาง คือ สะพานปิ่นเกล้า–พุทธมณฑล-นครชัยศรี-นครปฐม-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี-ไทรโยค และ บางใหญ่-บางเลน-กำแพงแสน-พนมทวน-กาญจนบุรี-ไทรโยค ประมาณ 3 ชั่วโมงจะถึง ‘ท่าเรือรีโซเทล’
ให้เพื่อนๆจอดรถไว้ที่นี่ แล้วนั่งเรือหางยาวเข้าที่พัก (GPS ท่าเรือ : N 14.281035, E 99.000796) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้ามาหลัง 6 โมงเย็น ต้องเช่าเรือเข้าที่พัก ราคา 1,000 บ. / เที่ยว
เรากำลังไปนะเดอะโฟลทเฮ้าสสสสสสสสสสส์..
อุ้ยๆๆๆ รู้สึกได้ถึงความดี
เป็นการเช็คอินที่ไม่มีสติเลยยยยยยย สติลอยไปอยู่กับเพดาน เก้าอี้ โคมไฟ คือเก๋มาก บาหลีมาก เรากับเพื่อนที่ไปด้วยกันเคยไปบาหลีมาแล้วทั้งคู่ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘นี่มันบาหลี ยิ่งกว่าที่บาหลีอีกอ่ะ’
ที่นี่ห้องพักทุกห้องเป็นแบบวิลล่าเหมือนกันหมดค่ะ ราคาห้องพักรวมอาหารเช้าอยู่ที่ 4,750 บ. / คืน ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า-เย็น 5,650 บ. / คืน และ ราคาห้องพักรวมอาหาร 3 มื้ออยู่ที่ 6,550 บ. / คืน เพื่อนๆสามารถจองเป็นแพ็คเกจรวมกิจกรรมต่างๆ เช่น ล่องแพ ขี่ช้าง ได้ผ่านเว็บไซต์ของที่พัก >> https://www.thefloathouseriverkwai.com/th/ อาจจะราคาสูงกว่าที่อื่หน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าที่ซู้ดดดดดดดดดดดดด
ห้องพักที่นี่มีครบทุกอย่างค่ะ ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ wifi หน้าห้องมีระเบียงพร้อมเก้าอี้นั่งเล่น และ ชิงช้าให้ด้วย นี่เปิดห้องเข้าไปก็เหมือนคนบ้าเลย กรี๊ดกร๊าดไม่หยุดเพราะชอบม๊ากกกกกกกกกกก.. เอ้อ เพื่อนๆสามารถบอกที่พักได้ว่าอยากพักเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ เขาจะได้จัดให้ถูกใจเรา
เป็นแพพักที่ดูสะอาดและทนทานที่สุดที่เราเคยไปมาเลย
ห้องน้ำในตัวนาเหวยยยยยยยยย มีไดร์เป่าผมนาเหวยยยยยย (ส่วนตัว ที่ไหนมีไดร์เป่าผมจะเลิฟมากขึ้น 3 ระดับ)
นี่ ไฮไลท์มันอยู่ตรงเน้ มันอยู่ตรงระเบียง
ตื่นเต้น ถ่ายรูปกันจนหมดแรง พวกเราก็ไปนั่งรอมื้อเที่ยงมาเสิร์ฟค่ะ ห้องอาหารเขาก็สวยไม่แพ้ห้องพักเลย เราชอบที่หมอนสีๆมาอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้แล้วดูไม่เยอะ ดูเข้ากัน
อาหารที่นี่เขาจะจัดเป็นชุดกับข้าวให้มื้อกลางวันและมื้อเย็น ส่วนมื้อเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์เดินตักเอง แต่เอ๋.. มากันสองคนก็ไม่น่าให้เยอะเบอร์นี้นะ ฮ่าๆ
เจอวิวแบบนี้แล้วไม่อยากให้ข้าวหมด อยากนั่งกินนานๆเลยยยย : D
กินเสร็จ เข้าห้องไปนั่งเล่นนอนเล่นสักพัก พวกเราก็ออกมาล่องแพค่ะ กิจกรรมล่องแพใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยจะพนักงานพาเราล่องไปตามแม่น้ำแควน้อย แล้วกลับมาส่งที่ที่พัก บางคนก็นั่งแพขาไป ว่ายน้ำขากลับ เขาจะมีเสื้อชูชีพให้ ไม่อันตราย อันนี้คือหน้าตาแพของพวกเราๆๆ..
พวกหนูพร้อมแล้วค่ะพี่ ไปเล้ยยยยยยยยยย ป.ล.พี่ใส่หมวกแบบนี้แล้วหนูรู้สึกเหมือนอยู่เวียดนามเลยอ่ะ5555
แก คือมันชิลและดีมากกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว พี่ไกด์บอกว่าบริเวณหาดควาย มีควายอยู่ทั้งหมด 13 ตัว ตอนแรกเจ้าของที่พักไถ่มาจากโรงฆ่าสัตว์ไม่กี่ตัว แล้วมันก็ขยายพันธุ์กันเองค่ะ ส่วนแพของชาวบ้านก็จะมีเป็นช่วงๆ บรรยากาศโดยรวมสวยและสงบมาก อยากรู้ต้องไปลองเองนะ เอารูปมาฝากแค่นี้..
หลังจากล่องแพเราก็เข้าไปเหยียดแข้งเหนียดขาในห้องค่ะ ใช้ wifi กันหน่อยเดี๋ยวจะไม่คุ้ม ฮ่าๆ ยังไม่ทันหายอิ่มจากมื้อเที่ยงก็ได้เวลามื้อเย็นอีกแล้ว ชุดอาหารเย็นวันนี้มีต้มยำทะเล พะแนงหมู ยำวุ้นเส้น และ ปลาทอด อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปลาอร่อยมาก วันที่เราไปพัก มีคนเกิด 2 คน ทางที่พักเขาก็ปิดไฟ ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ เอาผลไม้ปักเทียนมาเซอไพร์สด้วย ชอบโมเม้นต์แบบนี้นะ น่ารัก.. ส่วนคนในรูปนี่เพื่อนเราเอง น่ารักมั้ยไม่รู้ : p
เป็นอีกคืนที่นอนหลับสบายที่สุด ไม่มียุงหรือแมลงมากวนใจ แอร์ก็มี เตียงก็นิ่ม เพราะหลับสบายเราเลยตื่นเช้ามาไม่งัวเงีย พร้อมจะไปกินข้าวและทำกิจกรรมต่อไปล้าวววววววว !
สลัดมี ซีเรียลมี เพื่อนๆสามารถสั่งไข่ดาว ไข่คน เพิ่มได้ด้วยนะ
แดดตอนเช้าส่องมาที เห็นปลาเป็นฝูงเลยยยยยยยย (ใช่ตัวเพื่อนตัวที่กินเขาเมื่อวานป่าวเนี่ย ?)
ผู้หญิงเรา กินแล้วก็ต้องเบิร์นออกค่ะ วันนี้เราจะไปเดินสำรวจ ‘ถ้ำละว้า’ แต่ระหว่างทางไปถ้ำ เราจะปั่นจักรยานไป หยิบได้เลย ที่พักเขามีบริการฟรี !
ปั่นไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงทางขึ้นไปถ้ำละว้าแล้ว ค่าเข้าชมคนละ 100 บ. (ชาวต่างชาติ 300 บ.) วันนี้มีพี่ไกด์ใจดีมากับพวกเราด้วย ความจริงเข้าบอกว่าถ้านักท่องเที่ยวอยากขึ้นไปเองก็ได้ แต่ต้องระวังตัวนิดนึงเพราะด้านในค่อนข้างมืด และ มีหินงอกหินย้อยเยอะพอสมควรค่ะ
เอาละนะ จะเข้าไปละน้า..
ถ้ำละว้ามีทั้งหมด 6 ห้องด้วยกันค่ะ แต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป มาเริ่มกันที่ห้องแรกเลย คือห้องพระ ห้องนี้สร้างเพื่อความเป็นมงคลและรำลึกถึงคนที่ค้นพบถ้ำนี้ค่ะ
ต่อไปเป็นห้องค้างคาว ตามชื่อเลยคือห้องนี้มีค้างคาวอยู่เยอะ เวลาเดินก็ระวังหัว และ อย่าเสียงดังค่ะ เดี๋ยวค้างคาวเขาจะตกใจ
นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้ว ห้องค้างคาวยังมีจุดนึงที่น่าสนใจค่ะ.. ถ้าสังเกตดีๆตรงนี้จะเหมือนทางรถไฟสายมรณะ บริเวณถ้ำกระแซ ลองดูๆๆๆๆ หินซี่ๆด้านซ้ายเป็นทางรถไฟ หินสีอ่อนด้านหลังเป็นหน้าผา และส่วนที่มืดๆเป็นแม่น้ำ
ห้องที่สามเรียกห้องจระเข้ค่ะ ที่เรียกห้องจระเข้เพราะตรงเพดานกลางห้อง มีหินชิ้นใหญ่รูปทรงคล้ายจระเข้
ต่อไปคือห้องโถง ห้องนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด
ทางเดินหลังจากห้องโถงมาจะเริ่มอันตรายขึ้น มีหินย้อยขนาดใหญ่และทางเดินค่อนข้างลื่น ยิ่งตรงที่เป็นพื้นต่างระดับต้องระวัง ทางที่ดี เกาะติดพี่ไกด์ไว้ค่ะ.. ห้องที่สี่คือห้องดนตรี ที่เรียกห้องดนตรีเพราะหินในรูปนี้ ตอนเคาะจะให้เสียงต่างกันไป
แล้วเราก็มาถึงห้องสุดท้าย ห้องม่าน เป็นห้องที่สวยที่สุดในถ้ำละว้าค่ะ ที่ดูในรูปอาจจะเฉยๆ แต่ความจริงมันสวยมากนะ หินสองข้างในรูปหน้าตาเหมือนม่าน แต่มีขนาดใหญ่มาก กะด้วยสายตาน่าจะสูงประมาณ 2 เมตร ที่สำคัญคือสีสวยเหมือนงาช้าง อยากเห็นก็ต้องมาดูกันเองนะจ๊า
สำรวจครบทุกห้องแล้ว พวกเราก็กลับเข้าที่พักค่ะ แป๊ปเดียว 2วัน 1คืนแล้ว ทำไมชีวิตดีดีแบบนี้มันผ่านไปไวจัง T__T ใครยังไม่เคยมาพักที่นี่ ต้องจัดนะ เป็นแพที่รวมธรรมชาติและความสะดวกสบายไว้พอดีมากๆ มีตังค์จะกลับไปแน่นอนนนนนนนน
ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนะคะ เพื่อนๆสามารถอ่านรีวิวอื่นๆได้ที่ blissoutthere.com และ…
fb : facebook.com/BlissOutThere
ig : instagram.com/BlissOutThere
tw : twitter.com/BlissOutThere
yt : http://goo.gl/nIjDRI
เย้
Comments
comments