กำเงิน 750 บาท ไปนอนโฮมสเตย์กลางป่า
ฟังเสียงลำธารที่ บ้านธารชีวี จ.เชียงใหม่
มีใครรู้บ้างว่าในหมู่บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาวมีบ้านไม้ 2 ชั้น
ที่เป็นทั้งโฮมสเตย์และคาเฟ่ซ่อนตัวอยู่
จากตัวเมืองเชียงใหม่เดินทางมาที่นี่ใช้เวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมงค่ะ
แต่พอได้เจอความสงบแบบนี้ คือฮีลใจ
เป็นโฮมสเตย์ที่เรียบง่าย แต่มุมถ่ายรูปอย่างเยอะ!
แถมยังราคาเป็นมิตรสุดๆเริ่มต้นที่คนละ 750 บาท/คืน เท่านั้น
ราคานี้รวมมื้อเช้าและมื้อเย็นแบบเติมได้ไม่อั้นเลย
รายละเอียดอื่นๆอยู่ในรีวิวนี้แล้วค่ะเลื่อนอ่านกันได้เลย
รับรองว่าอ่านจบแล้ว เพื่อนๆจะอยากเก็บเสื้อผ้ามาตามรอยเราเลยแหละ
จะไปเที่ยว ก็อย่าลืมซื้อประกัน
การเดินทางเผื่อไว้น้า ประกันการเดินทาง
ในประเทศโดย ???? ???? ???? ????
เบี้ยประกันภัย เริ่มต้น แค่ 180 บาท
– คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า
– คุ้มครองความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
– คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรคอาหารเป็นพิษ
พิกัด : https://atth.me/0027jn001c4k
ติดต่อจองห้องพัก
พิกัด : บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
FB : https://www.facebook.com/tarnchevee.chiangdao/
โทร : 0994144265 / 0619644944
ทริปนี้เรานอนกันนอกเมือง
เลยเช่ารถขับกันเองเพื่อความสะดวก
เราเช่าที่เพจกินเที่ยว รถเช่า เชียงใหม่
เค้ามีบริการรับ – ส่ง รถที่สนามบินและใน
ตัวเมืองเชียงใหม่ ราคาไม่แพง มีรถให้เลือกหลายรุ่น
ดูรายละเอียดอื่นๆได้ในเพจ กินเที่ยว รถเช่า เลย
https://www.facebook.com/kinteawrentacar/
ข้อควรรู้ก่อนเข้าพักที่บ้านธารชีวี
– จากจุดจดอรถต้องเดินเท้าลงมาอีก 150 เมตร
ทางชันพอสมควร แนะนำให้ขนเฉพาะของใช้
เสื้อผ้าที่จำเป็นลงไปก็พอ เพราะตอนกลับจะ
เหนื่อยมากค่า เตือนแล้วนะ
– ด้วยความธรรมชาติสุดๆ ก็จะมีแมลงเยอะหน่อย
ถ้าใครมีอาการแพ้แมลง แพ้ยุง พกยามาด้วยนะคะ
– ที่พักงดส่งเสียงดังหลัง 4 ทุ่ม เนื่องจากเป็นกฏของหมู่บ้านแม่แมะค่า
เดินทางกันมาครึ่งวัน ในที่สุดก็มาถึงที่นอนคืนนี้แล้วว
แว้บแรกที่เห็นคือ บ้านไม้กลางป่า มีลำธารตัดผ่านหน้าบ้าน
แบบในนิทานเป๊ะๆ รอบๆคือสงบมากกก
เราไปช่วงวันธรรมดา นักท่องเที่ยวเลยไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านก็เจอมุมรับแขกเล็กๆ
พร้อมป้ายชื่อบ้าน
นอกจากจะเป็นโฮมสเตย์แล้ว
บ้านธารชีวียังเป็นคาเฟ่อีกด้วยค่ะ
ถึงไม่ได้เข้าพักที่บ้านธารชีวี
ก็สามารถแวะมานั่งเล่นที่คาเฟ่ริมน้ำนี้ได้น้า
พนักงานต้อนรับของบ้านชื่อว่า “เจ้าอาวาส” ค่ะ
น้องเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวทุกคน
(แอดมินแอบจำผิดเป็นเจ้าที่ ไม่เคืองกันนะเหมียว)
ทำการเช็คอินเรียบร้อย ก็ขนของขึ้นห้องพักกันเลย
เราได้พักที่ห้องชลธี ซึ่งจะอยู่ริมสุดบนชั้นสองค่ะ
ชั้น 2 จะมีห้องพักจำนวน 3 ห้อง
ด้านในห้องตกแต่งเหมือนกัน
ทุกห้องจะใช้ระเบียงร่วมกันนะ เพราะงั้น
ต้องช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยค่ะ
ด้านในห้องจะมีฟูกใหญ่ 2 ฟูก ห้องนี้พักได้ตั้งแต่
2-4 คนเลย มีห้องน้ำในตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มีครบ น้ำดื่ม พัดลม ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู
ขนมาแต่เสื้อผ้าก็อยู่สบายเลยค่า
ราคาห้องพักเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 850 บาท/คน/คืน
ราคาห้องพักเดือนมีนาคม – ตุลาคม 750 บาท/คน/คืน
ราคานี้รวมอาหารเช้าและเย็น
มีโคมไฟจิ๋วให้ที่ข้างเตียงด้วย
ปลั๊กไฟก็เพียงพอต่อการใช้งานค่ะ
มี wifi ให้ด้วย สะดวกจริงๆ
ห้องน้ำส่วนตัวก็กว้าง สะอาด มีเครื่องทำน้ำอุ่น
สบู่ แชมพูให้ครบ ช่วงเช้าจะมีซากแมลงอยู่ที่พื้น
เยอะหน่อย ด้วยความอยู่กลางป่าอะเนาะ
ทางที่พักเค้าก็มีรองเท้าแตะสำหรับเข้าห้องน้ำ
เตรียมไว้ให้ค่า
เก็บของเรียบร้อย ออกมาดูรอบๆบ้านกันดีกว่า
ออกจากห้องมาปุ๊ป หันทางซ้ายจะเจอวิวนี้ค่ะ
สะพานไม้นั้นคือทางที่เราเดินเข้ามา
ถ้าหันขวา จะเจอลำธารทอดยาวไปแบบนี้
ลำธารที่ตัดผ่านบ้านธารชีวีลึกประมาณเข่าเองค่ะ
แต่พื้นจะยวบๆหน่อย ถ้าใครลงมาเล่นน้ำก็ระวัง
ลื่นล้มด้วยน้า รูปนี้ก็ถ่ายจากกลางลำธารค่ะ
ตัวบ้านในมุมนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ
มุมยอดฮิต ได้จากการลุยน้ำข้ามฝั่งไปถ่ายมาค่า
พออยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วได้เห้นบ้านธารชีวี
แบบเต็มๆทั้งหลังเลย ห้องชลธีของเราอยู่ริมซ้ายสุดเลยค่ะ
นี่ก็มุมฮิตเหมือนกัน
มื้อเย็นมาล้าววว ขอแอบแซ่บแคปหมูชิ้นนึง
ที่พักจัดมาให้เต็มจานเลย เมนูยืนพื้น
จะเป็นน้ำพริกหนุ่ม ผักต้ม แกงจืดหมูสับ
แกงฮังเล ลาบคั่ว (อาจเปลี่ยนตาม
วัตถุดิบที่มีในวันนั้นๆค่ะ) กินกับข้าวเหนียว
ถ้าไม่อิ่มเติมได้! เรากินมื้อเย็นช่วงเกือบๆ
6 โมง รีบกินเพราะกลัวแมลงจะมาเยอะ
ระหว่างนั่งกินคุณแม่เจ้าของที่พักแวะมาคุยด้วย
น่ารักมากมายยย เป็นกันเองสุดๆเลย
แกงฮังเลในถ้วยจิ๋ว แต่เนื้อแน่นถ้วยเลยนะขอบอก
นอกจากแมวแล้ว ก็ยังมีน้องหมาอีก 2-3 ตัว
แวะเวียนมาหน้าบ้านอยู่เรื่อยๆค่ะ
น้องเป็นมิตรทุกตัวเลย รับแขกกันเก่งมาก
อิ่มท้องแล้วก็มานั่งชิลล์ที่ระเบียงหน้าห้อง
พอฟ้าเริ่มมืด อากาศก็เริ่มเย็นลงๆ
ดีต่อใจมากก เพราะเจอความร้อนอบอ้าวมาทั้งวัน
ยิ่งช่วงกลางคืน เปิดพัดลมเบาๆก็เย็นแล้วค่ะ
หลับสบายสุดๆ
มื้อเช้าของบ้านธารชีวีจะมีขนมปัง
และข้าวต้มให้ปรุงเองตามใจชอบ
ตั้งโต๊ะอาหารอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน
ไม่อิ่มก็เติมได้เรื่อยๆ ใครอยากจิบกาแฟ
หรือนมร้อนๆ สามารถสั่งที่คาเฟ่ได้เลย
หรือจะบริการตัวเอง ก็มีกาแฟผงให้
ชงกินเองได้เช่นกันนะค้า
จบไป 1 คืนที่ได้พาตัวเองมาชาร์จแบตกับธรรมชาติ
เป็นโฮมสเตย์ที่ดีต่อใจและเงินในกระเป๋ามากจริงๆค่า
ตอนนี้ต้องขนของกลับแล้ว ไว้จะกลับมาหาใหม่นะ “บ้านธารชีวี”
ติดตามและรออ่านรีวิวดีๆได้ที่หน้าเพจ
และทุกช่องทางข้างล่างนี้เล้ย
FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/
IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/
IG แอดมิน : https://instagram.com/pingpitchayaa
YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere
Website : https://blissoutthere.com/
Line : https://lin.ee/3R4lVCCv
Comments
comments