ไปดูไฟที่งาน Bangkok Illumination 2015 กันเถอะ

ครั้งแรกกับการรวมศิลปะจัดแสง (Light Art) ของศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก มาไว้ที่ The Em District

 

 

นั่น! งง! งงอ่ะดิว่า Bangkok Illumination 2015 คืออะไร…
Bangkok Illumination 2015 คือ เทศกาลที่นำศิลปะจัดแสง หรือ Light Art ของศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก
มาจัดแสดง ที่บริเวณ The Em District ค่ะ ทั้งในสวนเบญจสิริ The Emporium และ The Em Quartier
เรียกได้ว่าจัดเต็มสมกับเป็นปีแรกของงานนี้จริงๆ จากที่สิ้นปีก่อนๆเราเดินดูไฟกันแถวสยาม – ชิดลม
ปีนี้เราลากยาวววววววววววมาถึง พร้อมพงษ์ ได้เลยค่ะ เอาให้จุใจ เอาให้แสบตากันไปเลย งานนี้จะสวยงามและสว่างไสวขนาดไหน… ไปชม

 

 

ไม่สำคัญว่าเราจะอยู่มุมไหนหลืบไหนของกรุงเทพฯ ขอแค่มี BTS / MRT เข้าถึง ใครๆก็ไปงานนี้ได้ค่ะ
พอลง BTS สถานีพร้อมพงษ์แล้ว ออกทางออกที่ 6 จะเจอ The Em District พอดิบพอดี
แต่ถ้าใครอยากไปเดินดูงานในสวนเบญจสิริก่อน (เราเอง) ให้เดินเลย The Em District แล้วลงบันไดฝั่งซ้ายค่ะ

 

เอาแล้ววววววววว มันเริ่มขึ้นแล้วววววววววว

 

 

เริ่มไม่แน่ใจว่านี่สวนสาธารณะหรือดินแดนมหัศจรรย์ คือ ต้นไม้มีสีสันมากกกกกกกกกก

 

 

เดินเข้าไปในสวนไม่นาน งานอาร์ตชิ้นแรกก็เตะตาเราเข้าให้!
เป็นซุ้มกระจกที่มีไฟสีเขียว – ขาว ห้อยระย้าอยู่ค่ะ งานชิ้นนี้ชื่อ (IN)VISIBLE
ความพีคอยู่ตรงที่ตอนกลางวันเราจะมองไม่เห็นงานชิ้นนี้เลย แต่ตอนกลางคืนมันก็จะสว่าง และมีเสน่ห์แบบในรูปค่ะ

 

 

เดินเลย (IN)VISIBLE เข้าไป จะเห็นมุ้งสีขาวๆ 10 หลัง เรียงกันอยู่ริมสระน้ำค่ะ มีความสวยงาม มีความพลิ้วไหว
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่างานชิ้นนี้เขามีอะไรเป็น Inspiration จนได้ยิน sound effect ที่เหมือนอยู่ในป่าช้า มุ้งสีม่วงก็กระพริบๆกลายเป็นสีขาว ตามด้วยเสียงฟ้าร้อง จุดนั้นคือกระโดดออกมาเลย คือกลัว! มารู้ที่หลังว่าเขาดีไซน์มาจากการปักกลด ออกธุดงค์ในป่าของพระสงฆ์ อยากบอกเจ้าของผลงานชิ้นนี้ว่า พี่สุดยอดอ่ะ… เหมือนจริง ทำหนูกลัวจริง

 

 

ไปต่อกันที่ UNTITLED กล่องหลายๆกล่องที่ติดไฟเป็นคำว่า “ว่าง”
งานชิ้นนี้ concept เดียวกับรถแท๊กซี่ค่ะ คือถ้ามีคนขึ้นไปนั่งบนกล่อง คำว่า “ว่าง” ก็จะหายไป… สุดคูล

 

 

เดินวนไปอีกฝั่งของสวน ก็จะได้ยินเสียงเพลงน่ารักๆออกมาจากต้นไม้ต้นหนึ่งค่ะ
มองขึ้นไปบนต้นไม้ก็จะเจอสายฟ้าห้อยอยู่ เห็นแล้วอมยิ้มนะสำหรับ BAD WEATHER – CLOUDY OF THUNDER

 

 

มาต่อกันที่ FUTURE SCAPE ต้นไม้ที่สว่างไสวตั้งแต่ลำต้นไปจนกิ่งก้านของมันค่ะ
เห็นแล้วก็อดเข้าไปดูใกล้ๆไม่ได้ โดยส่วนตัวเราว่าชิ้นนี้เอาไปตกแต่งในสวน หรือตลาดนัดอาร์ตๆชิลๆได้เลยนะ

 

 

นอกจากที่เล่ามา ในสวนเบญจสิริยังมีงานที่จัดแสดงอยู่อีกหลายชิ้นเลยค่ะ

 

 

กลับมาที่ The EM District แล้วถึงกับต้องร้องออกมาว่าอู้หูวววววววววววววววว
ทำไมอลังการงานสร้างขนาดนี้! ผนังห้างทั้ง The Emporium และ The EmQuartier บอกเลยค่ะว่ากินกันไม่ลง

 

 

แนะนำพอถึง The Em Quartier แล้วให้เข้าไปเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ที่ชั้น M (ชั้นที่เชื่อมกับ BTS) ก่อนเลยค่ะ
เพราะเขาจะมีโบชัวร์ของงานแจกอยู่ เอามาพกติดตัวไว้ อยากดูงานชิ้นไหนจะได้ไปถูกเนอะ

 

บริเวณ Quartier Parc มีงานจัดแสดงอยู่หลายชิ้นเลยค่ะ ชิ้นแรก คือ TIME เป็นนาฬิกาใส ประกอบด้วยเสียงและสีที่หลากหลาย แรงบันดาลใจของงานชิ้นนี้คือทฤษฎีสัมพันธภาพเรื่องพื้นที่และเวลาของไอน์สไตน์ รวมถึงความลี้ลับของจักรวาลลลลลลลลลลลลลล

 

 

เห้ย ไอโค้งๆนั่นคืออะไรอ่ะ แสงสะท้อนมาแสบตาเหลือเกิน ขอเข้าไปดูหน่อยค่ะ
งานชิ้นนี้ชื่อว่า LEAF FORM สะท้อนรูปทรงของใบไม้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ

 

 

ชิ้นงานที่จัดแสดงบริเวณ Quartier Parc ยังมีอีกเยอะเลย ให้เล่าคงเล่าไม่หมด
ไปดูบรรยากาศที่เอามาฝากกันดีกว่าค่ะ

 

 

อย่าเพิ่งเมื่อยค่ะอย่าเพิ่งเมื่อย งานอาร์ต งานละเอียดรอพวกเราอยู่ที่ Quartier Water Garden ชั้น 5 ของ The Em Quartier ค่ะ แต่ก่อนจะไปถึงชั้น 5 เราแนะนำให้แวะถ่ายรูป Quartier Waterfall ที่ชั้น G ก่อน

 

 

ไม่ต้องขึ้นลิฟท์นะ ขึ้นบันไดเลื่อน จะได้แวะทางเชื่อมของแต่ละชั้น เพราะมันดีมากกกกกกกกกก
THE COIL คือชิ้นงานที่ตั้งอยู่ตรงทางเชื่อมชั้น M ค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Rainbow Coil สปริงของเล่นสมัยพวกเราเด็กๆนั่นเอง

 

ส่วนเมียร์แคทสีสันสดใส 5 ตัว ก็ยืนรอให้เราไปถ่ายรูปอยู่ที่ทางเชื่อมชั้น 1 ค่ะ

 

 

MOON คือชิ้นงานที่จัดเป็นทรงกลม และขึ้นโครงด้วยเหล็กเส้น อยู่บริเวณทางเชื่อมชั้น 4 ค่ะ

 

 

ในที่สุดดดดดดดดดด เราก็มาถึง Quartier Water Garden ค่ะ

 

 

ไปดูงานชิ้นแรกกันเลยค่ะ ตั้งเด่นอยู่แล้วสำหรับ FIREFLY CAVE ถ้ำสีเขียวในสวนแห่งนี้
ถึงนอกถ้ำจะดูโมเดิร์น แต่ข้างในมีเสียงเพลงเบาๆ มีหิ่งห้อยและผีเสื้อห้อยอยู่ เพิ่มความน่ารักให้งานชิ้นนี้ได้มากเลยค่ะ

 

 

ไปต่อกันที่ FLORIST FRAME กรอบสวยๆที่มีรูปทรงของดอกไม้เป็น inspiration
โดยส่วนตัวเราชอบอันนี้ มันดูโดดเด่น และดอกไม้ทุกดอกก็มีรายละเอียดสวยงาม
ที่สำคัญมองทะลุกรอบนี้ไปจะเป็นวิวของสวนเบญจสิริด้วยนะ

 

 

ถัดจาก FLORIST FRAME ไปหน่อย มีสัตว์ตัวหนึ่งยืนส่องแสงอยู่ค่ะ
ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่านี่ เก้ง กวาง หรือ กระจง แต่พอเห็นชื่อ EDEN DEER อ้อออออออออ กวางๆๆๆๆ

 

 

ขอปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยภาพบรรยากาศที่เหลือค่ะ

 

 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับงาน Bangkok Illumination 2015 ? บอกเลยว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ความสวยงามและความตื่นตายังมีอีก จะมากมายขนาดไหนต้องมาชมกันเอง งานนี้จัดทุกวันจนถึงวันที่ 3 มกรา 2559 และที่สำคัญคือไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ

ใครที่พลาดปีนี้ ปีหน้าอย่าพลาดน้าาาาาา ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Bangkok Illumination ก็เลือกตามลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

Website : http://www.bangkokillumination.com/?lang=th
Facebook : https://www.facebook.com/bangkokilluminationfestival

 

แล้วครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหน อย่าลืมติดตามกันนะ ขอบคุณค่า <3

 

Comments

comments