10 ขั้นตอนสั้นๆ เข้าใจง่าย อ่านแล้ว ทำตาม
ได้มาเหยียบดินแดนจิงโจ้แน่นอนนนนน !
ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในจุดหมายที่คนอยากมาเรียน
ต่อปริญญาโท / เรียนภาษา ใฝ่ฝัน ซึ่งปิงจะบอกว่า
ฝันนี้ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย ถ้าเราหาข้อมูลและ
เตรียมตัวมาอย่างดี อย่างปิงเองก็มาได้โดยไม่ต้อง
เสียเงินจ้างเอเจนซี่เลยแม้แต่บาทเดียว! ขั้นตอนที่ว่า
จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันนนนนนน :- )
ป.ล. ข้อมูลต่อจากนี้เป็นในมุมคนที่มาเรียนต่อ
ป.โทเหมือนปิงน้า ถ้าไม่ได้มาแบบนี้อาจจะต้อง
หาข้อมูลเพิ่มหน่อย แต่รับรองว่าหลักๆประมาณนี้จ้า
1. ตอบตัวเองให้ได้ว่าอยากมาเรียนอะไร
เพราะอะไร / เรียนไปทำไม ข้อนี้สำคัญมาก
เพราะการมาเรียนต่อตปท.ใช้เงินเยอะทีเดียว
เราต้องแน่ใจในสิ่งที่เราอยากทำในอนาคตก่อน
แล้วเลือกเรียนสิ่งที่จะมาส่งเสริมอนาคตของเรา
2. หาข้อมูลว่าคณะ / สาขาที่เราอยากเรียน
มีมหาวิทยาลัย / สถาบันไหน เปิดสอนบ้าง
รายละเอียดคอร์สแต่ละที่เป็นยังไง เช่น จำนวนวิชา
ค่าเทอม การฝึกงาน เงื่อนไข ฯลฯ แล้วเปรียบเทียบ
3. พอได้ที่เรียนที่ถูกใจแล้ว ( ไม่จำเป็นต้องที่เดียว )
ก็ทำการสมัคร! ขั้นตอนนี้แหละจะเริ่มมีความปวดหัว
ของเอกสารต่างๆเข้ามา เพราะแต่ละมหาวิทยาลัย /
สถาบัน ขอเอกสารไม่เหมือนกัน หลักๆก็จะเป็น
เอกสารยืนยันตัวตน ( บัตรปชช., ทะเบียนบ้าน, ใบจบ
การศึกษาที่ไทย ) สถานะทางการเงิน ( statement
ของผู้ที่ออกค่าเทอม / ผู้ปกครอง ) และ คะแนน
สอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ( ielts / toeic )
ขั้นตอนนี้บางคนก็สมัครผ่านเอเจนซี่ บางคนก็ยื่นตรง
กับที่เรียน แต่ปิงไปยื่นในนิทรรศการเรียนต่อตปท.
ก็จะประหยัดค่าสมัครไปได้
4. ข้อนี้คาบเกี่ยวกับข้อ 3 เพราะเอกสารอื่นหาไม่ยาก
แต่คะแนนสอบวัดระดับภาษานี่สิ.. ตอนนั้นปิงไม่เคย
สอบอะไรเลย ตอนสมัครที่เรียนก็เลยยื่นเอกสารอื่นๆ
ไปก่อน แล้วค่อยยื่นคะแนน ielts ตามไป ช่วงนั้นก็
เตรียมตัวสอบประมาณ 3 – 4 เดือนได้ กว่าจะได้
คะแนน 7 มาครอง แล้วแต่ว่าที่เรียนเราจะเรียก
คะแนนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นป.โท ส่วนใหญ่จะ 6 / 6.5 /
7 ( จากคะแนนเต็ม 9 นะ ielts ) วิธีการเตรียมตัวสอบ
ielts ที่ดีที่สุดคือไปเรียนพิเศษเพื่อให้ได้เทคนิค
ต่างๆและวิธีการทำข้อสอบให้ไว จากนั้นทบทวน
ว่าเราเก่ง ไม่เก่งพาร์ทไหน แล้วฝึกเพิ่ม ต่อด้วยการ
เอาข้อสอบเก่ามาทำวนๆไป ที่เหลือก็ขึ้นกับดวง
ในวันสอบ ว่าจะเจอข้อสอบที่เราคุ้นตามั้ย ฮ่าๆ
Ielts ไม่ใช่ข้อสอบที่ยาก แต่เราต้องทำให้ไว
และตรงตามเกณฑ์ที่เขาจะประเมินเท่านั้นเอง สู้ๆ
5. หลังจากยื่นเอกสารและคะแนนสอบวัดระดับภาษา
ให้กับที่เรียนครบแล้ว ก็ต้องรอที่เรียนตอบรับ..
บางที่อาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ บางที่อาจจะใช้เวลา
เป็นเดือน หรือ หลายเดือน ก็ต้องทำใจ แต่ถ้าได้ใบ
ตอบรับ / offer จากที่เรียน ก็ถือว่าผ่านด่านใหญ่ไป
ด่านนึงแล้วค่ะ ( บางที่อาจจะขอสัมภาษณ์ทาง
skype ก่อนจะให้ offer เราก็ต้องเตรียมตัว แต่ถ้าจะ
สัมภาษณ์ เขาจะแจ้งก่อนอยู่แล้ว )
6. ได้ offer มาแล้ว อย่าลืมอ่านเงื่อนไขให้ดี
เพราะขั้นตอนต่อไปมักจะตามมาด้วยการโอนมัดจำ /
ค่าเทอมให้ที่เรียน เขาถือว่าเรารับรู้เงื่อนไขและ
รายละเอียดต่างๆแล้ว พอโอนเงินเสร็จ เราก็จะได้
เอกสารที่เรียกว่า CoE / Confirmation of
Enrolment ที่เราต้องใช้ประกอบการยื่นวีซ่านักเรียน
7. ขั้นตอนการยื่นวีซ่านักเรียน เอกสารที่ต้องใช้
ระยะเวลารอผล และ ข้อมูลทุกอย่าง เข้าไปอ่านได้
ใน link นี้ค่ะ https://www.vfsglobal.com/Australia/Thailand/thai/know_your_visa_type.html
8. วีซ่าผ่านแล้วไงต่อ ? เตรียมตัวสิรออัลไล!
จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักโลดดดดดดด
สองอาทิตย์แรกปิงเลยจอง airbnb มาก่อน
แล้วก็ทยอยเข้าไปดูที่พักที่เราจะอยู่ยาว
ตามกรุ๊ป FB หรือ เว็บไซต์ต่างๆ
9. จัดกระเป๋า ของใช้จำเป็นทั้งหลาย เสื้อกันหนาว
จองใช้ส่วนตัว ยาสามัญ อุปกรณ์การเรียน ถ้านึก
ไม่ออกก็ลอง search ดูใน google เดี๋ยวไอเดีย
มันจะค่อยๆผุดขึ้นมาเอง5555555
10. เตรียมตัวมาหมดแล้ว ที่เหลือก็เตรียมใจค่ะ
เตรียมมารับประสบการณ์ใหม่ๆ มันคือครั้งนึงในชีวิต
พอมาแล้วเราจะเจอหลายๆอย่างที่เราไม่คุ้น ไม่ชิน
ทำให้เรารู้สึกว่า จะพาตัวเองมาลำบากทำไมวะ ?
แต่เชื่อเถอะว่าทั้งหมดนี้จะทำให้เราโตขึ้น มันมีแต่
ประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าเราเลือกที่จะขวนขวาย
สุดท้ายฝากติดตาม ชีวิตนักเรียนไทยในซิดนีย์
ของปิงที่ เพจ Bliss Out There ด้วยน้า
ขอบคุณค่ะ <3
https://www.facebook.com/BlissOutThere/
Comments
comments