10 สัญญาณที่บอกว่าคุณอาจมี “ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว”

‘ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว (Wanderlust Gene)’ มีอยู่จริง และนี่คือ 10 สัญญาณที่บอกว่าคุณอาจมียีนนี้อยู่ในตัว

เราเดาว่าช่วงนี้หลายคนคงคุ้นกับคำว่า “Wanderlust” แต่อาจจะยังไม่ชัวร์ว่าเห้ยความหมายของคำนี้จริงๆแล้วมันคืออะไร… พจนานุกรมออนไลน์ของมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ ได้ให้นิยามของคำนี้ว่า คือผู้ที่มีความปรารถนาอย่างมากในการเดินทางท่องเที่ยว พูดให้ชัดก็คือ พวกเขาไม่ได้แค่ต้องการไปนู่นไปนี่ แต่ต้องการออกสำรวจโลกใบนี้ ต้องการเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น และสัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง อยู่ตลอดเวลาค่ะ

นักวิจัยทั่วโลกค้นพบสาเหตุมากมายที่ทำให้คนบางกลุ่มมีลักษณะ “Wanderlust” และหนึ่งในสาเหตุเหล่านั้น คือ ยีนที่มีชื่อว่า “DRD4” ยีนนี้อยู่ภายในสมองของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “โดพามีน (Dopamine)”  ซึ่งโดพามีนมีหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างแรงกระตุ้นจากภายใน กับพฤติกรรมที่เราแสดงออก

ปัจจุบันยีนดังกล่าวพัฒนาไปเป็นยีน “DRD4-7R” และพบในมนุษย์ไม่ถึง 20เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก ผู้ที่มียีนนี้อยู่จะมีลักษณะอยู่ไม่นิ่ง มีความสงสัยใครรู้ กล้าเสี่ยงมากกว่าคนอื่น และอยากออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆอยู่ตลอด นำไปสู่ข้อสรุปว่ายีนนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นสำคัญของบุคคลที่มีอาการ “Wanderlust”

ถ้าพวกนายเริ่มสงสัยว่า “เห้ย เราจะมีไอยีนนี้อยู่ในตัวรึเปล่าวะ” หรือ “เราเที่ยวไม่เคยพอเลย หรือจริงๆแล้วเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้วะ” เราขอเสนอ 10สัญญาณที่อาจบอกว่าคุณมี “ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว (Wanderlust Gene)” อยู่ในตัว ให้พวกนายไปค้นหาตัวเองกันหน่อย แต่ถึงอ่านแล้วนายจะพบว่านายไม่เข้าข่ายสักข้อเลย ก็ไม่ได้แปลว่านายไม่ใช่นักท่องเที่ยว ไม่ได้ตัดสินว่านายไม่ใช่นักผจญภัย ที่แน่ๆพวกนายต้องได้อะไรจาก 10 ข้อนี้ไปบ้าง และออกเดินตามทางของนายต่อไปนะ : )

1.    นายรู้สึกว่าการดู “แผนที่” นี่มันสนุกใช้ได้เลย
เคยมั้ยตอนเด็ก เรียนภูมิศาสตร์แล้วรู้สึกว่า เออออออ อินว่ะ
เคยมั้ยอ่านนิตยสาร National Geographic แล้วรู้สึกว่า โห โลกนี้มีอะไรอีกเยอะเลยอ่ะ
หรือที่ผนังในห้องนาย นอกจากติดรูปครอบครัว ติดตารางเรียน นายก็ติดแผนที่ไว้ หวังว่าวันนึงนายคงได้ไปหมดทุกที่
ถ้านายเป็นคนนึงที่ไม่เคยเบื่อแผนที่ ไม่เคยกลัวที่จะต้องเสี่ยง และมองว่าการหลงทางเป็นสเน่ห์อย่างนึงของการไปเที่ยว…ใครจะไปรู้ นายอาจจะมียีนนี้ซ่อนอยู่ในตัวก็ได้

2.    นายขี้สงสัย นายเป็นเจ้าหนูจำไม คำถามที่นายมีต่อโลกนี้ไม่เคยหมด
อยู่ในบ้านแล้วมันรู้สึกว่างเปล่าเหงาหงอยเหลือเกิน นอนเปื่อยจนหมดวัน ในมือกดโทรศัพท์หาที่ที่น่าสนใจ อยากรู้จังที่นั่นจะเป็นยังไง อยากไปจังที่ที่ยังไม่เคยไปมาก่อน อยากเจอคนหน้าใหม่ๆ อยากลองกินอะไรใหม่ๆ และทุกครั้งที่ได้ออกไปไหน นายเหมือนได้ขยายขอบเขตความรู้ของตัวเอง ถ้านายมีอาการแบบนี้บ่อยจนเป็นปกติ… ยินดีด้วยนักสำรวจตัวน้อย “ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว” อาจอยู่ในตัวนาย

3.    นายรู้สึกว่าการใช้เงินไปกับเรื่องเที่ยว ไม่เคยเป็นปัญหา เพราะยังไงมันก็คุ้ม
ถ้ามีใครบอกนายว่า “เงินที่แกเอาไปเที่ยวเนี่ย เอาไปซื้อเสื้อผ้าดีกว่าม้างงงงงงง” หรือ “ถ้าแกไม่เอาเงินไปเที่ยวนี่เมิงซื้อรถ ซื้อบ้านได้แล้วม้างงงงงงงงง” เราบอกเลยว่าคนพวกนั้นไม่เข้าใจเรื่อง “การลงทุน” … จะเสื้อผ้าหรืออะไรก็ตามที่เราซื้อ มันคือความสุขก็จริง แต่มันอยู่นอกตัวเรานะอย่าลืม ส่วนเงินก้อนที่คุณแลกกับการได้ออกไปสำรวจโลกใบนี้ เรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่คุณพบเจอ การผจญภัยเหล่านั้น มันไม่มีทางบุบสลาย เพราะมันอยู่ในตัวคุณ ดังนั้น จงดีใจที่คุณเป็นนักลงทุนระยะยาว

Related Post

4.    นายไม่กลัวอะไรง่ายๆหรอก
การได้ออกนอกเส้นทาง การออกนอกแผนที่วางไว้ หรือการลองทำอะไรใหม่ๆ มันมีความเสี่ยง มันน่ากลัว พวกนายอาจจะรู้สึกลังเลว่า “เห้ย เอาจริงดิ นี่เราจะคุยกับคนแปลกหน้าจริงอ่ะ” หรือ “นี่เรากำลังจะปีนขึ้นไปบนหน้าผาที่สูงมากนะเว่ย ถ้าเรา…” หลังจากคำว่า “ถ้าเรา…”  ในหัวพวกนายอาจตามมาด้วยคำว่าอะไรก็ได้ แต่ถ้าสุดท้ายมันเป็นคำว่า “ถ้าเราไม่ลอง เราก็ไม่รู้” นั่นคือนายได้เพิ่มอีกรสชาตินึงให้การเดินทางของนายแล้ว
การท่องเที่ยว กับ การผจญภัย เป็นคนละคำกัน มีความหมายต่างกัน แต่ก็มีหลายครั้งที่สองคำนี้มาอยู่ด้วยกันในทริปเดียว และทริปแบบนั้นคงน่าจดจำขึ้นเป็นไหนๆ

5.    สำหรับนาย ไม่มีคำว่า “คนแปลกหน้า” มีแต่ “เพื่อน” ที่นายยังไม่เคยเจอ
ไม่ว่านายจะไปเที่ยวคนเดียวหรือไปกับกลุ่มเพื่อน นายก็สามารถหาเพื่อนใหม่ได้เหมือนกันนน อาจเริ่มจาก Bag packers ที่พักที่เดียวกัน หรือคนที่เจอตามสถานที่ท่องเที่ยว วิธีหาเพื่อนใหม่ที่ดีวิธีนึงเลยก็คือ การกินข้าวด้วยกัน นายอาจจะซื้อของกินมาแชร์กับเพื่อนใหม่ หรือลองทำอาหารไทยให้พวกเค้ากิน แต่การทำความรู้จัก พูดคุยเรื่องชีวิตประจำวัน เป็นวิธีที่ห้ามลืมเด็ดขาด ใครจะไปรู้ ประสบการณ์ของเค้าอาจเปิดหูเปิดตาของนายได้มากกว่าที่คิด

6.    นายรู้สึกฟิน และตื่นเต้นทุกครั้ง หลังจากจองตั๋วเดินทาง หรือจองที่พัก
บางคนอาจจัดทริปขึ้นมาแบบไม่แพลนอะไรเลย ไปลุยเอาข้างหน้า แต่บางคนก็เริ่มวางแผนตั้งแต่จองตั๋วเสร็จ เพราะพวกเค้าคิดว่าการรอคอยอย่างมีความหวัง เป็นส่วนหนึ่งของความสนุก ยิ่งได้อ่านหนังสือคู่มือนำเที่ยว วางแผนการเดินทาง และศึกษาว่าที่ที่เราจะไปมันมีอะไรบ้าง ยิ่งทำให้คนที่มี “ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว” รู้สึกฟิน

7.    นายไม่กลัวความเจ็บป่วย นายไม่กลัวโรคอะไรทั้งนั้น
โรคภัย หรืออันตรายที่อยู่ในเมือง ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนที่มียีนนี้อยู่ในตัว เพราะเค้าจะมองว่าทุกสถานที่ ทุกเมือง นอกจากความสวยงาม มันก็มีอันตรายซ่อนอยู่ทั้งนั้นแหละ ถ้าเรารู้จักระมัดระวัง เตรียมร่างกายให้พร้อม ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แค่ลองเสี่ยงดูอีกสักครั้ง

8.    เรื่องแพ็คกระเป๋านี่ขอให้บอก นายเป็นเซียน
ถ้านายมียีนนี้อยู่ในตัว นายจะพร้อมออกไปนู่นไปนี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทริปสั้น หรือทริปยาว ไปทะเล หรือไปภูเขา นายจะดีดตัวเองมาจัดกระเป๋าจนเสร็จได้ในเวลาอันสั้น โดยที่ในกระเป๋าใบนั้นมีของที่จำเป็นต้องใช้อยู่ครบ พื้นที่ในกระเป๋าถูกจัดสรรอย่างคุ้มค่า และนายไม่ต้องทวนเลยว่าอะไรเอาไปได้ อะไรเอาไปไม่ได้… นายแค่รู้

9.    Jet lag น่ะหรอ นายไม่ได้สัมผัสมันมานานนนนนนนนนนนนนนแล้ว
Jet lag คือ อาการป้ำๆเป๋อ รู้สึกเวียนหัว หงุดหงิดง่าย และนอนไม่หลับ จะเกิดกับคนที่เดินทางไกล แต่ถ้ามันไม่เกิดกับนาย ขอแสดงความยินดีด้วย นายคือคนส่วนน้อย… คนที่รับมือกับการเดินทางระยะไกล ให้ไม่เกิดอาการ Jet lag ภายหลังได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไรก็ตาม มีแววที่จะมียีนมหัศจรรย์นี้อยู่

10.    นายไม่เคยพอกับคำว่า “ท่องเที่ยว”
และข้อสุดท้ายถ้านายเป็นคนนึงที่ไม่เคยห่างจากการท่องเที่ยว นายรู้สึกต้องการมันตลอดเวลา ขอแค่มีเวลาให้ออกไปข้างนอก จะวันสองวัน จะใกล้จะไกลนายไปได้หมด หรือถ้าประโยคติดปากของนายคือ “ตอนที่เราไป…” เป็นไปได้ว่า “ยีนเกิดมาเพื่อเที่ยว” อาจจะอยู่ในตัวนายก็ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก    http://bit.ly/1xfQdKd และ http://bit.ly/1jhUtSQ

คราวหน้า Bliss Out There จะมีอะไรดีๆมาฝากกัน ต้องติดตามค่ะ (:

Comments

comments