เดินกันมันส์ 7 วัน ในลอนดอน

เที่ยวลอนดอนแบบมือโปร 7 วัน ง่ายๆ ใครก็ไปได้

 

 

เอาอีกแล้วนะฮะ Bliss Out There พาเที่ยวกันอีกแล้ว คราวนี้ขอพาเพื่อนรักนักเดินทางทุกคนไปเที่ยวกันไกลนิสนึงงงงงงงงไปถึงสหราชอาณาจักรกันเลยทีเดียว แต่เดี๋ยว ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าโอ้ยยยยยยยย เที่ยวยุโรป ไปยากอ่ะ เกินเอื้อมอ่ะ งอแงๆๆๆๆ… คือมันไม่จริงงงงงงงงงง บอกเลย หลายคนเข้าใจว่าไปยุโรปต้องไปกับทัวร์ โถ่เพื่อนเอ๋ย เชื่อเราไปเองเนี่ยมันส์สุดติ่ง ขอแค่พวกนายมีขาที่แข็งแรง ช่วงล่างที่มั่นคง และต้องการใช้เวลา 7วันให้คุ้มค่า แล้วเราจะพาไปเปิดหูเปิดตาเดินตะลอนให้ทั่วลอนดอนกันไปเล้ยยยยยยยยยย

 

ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เราจะไม่มีการคำนวณงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายใดๆนะฮะ แต่จะบอกให้ว่าไปเที่ยวที่ไหนต้องจ่ายค่าอะไรเท่าไหร่ เพราะเราเชื่อว่าตั๋วเครื่องบินและที่พักนี่พวกนายหาเองได้อยู่แล้ววววววววววว ก็เอาที่ชอบกันเลย เก่งกันพอสมควรแล้วแหละถ้าได้วีซ่าแล้วอ่ะ จุดนี้ขอไกด์ไลน์สถานที่ท่องเที่ยวแบบเฟี้ยวๆคูลๆให้ก็พอแล้วม้างงงงงงงงง… แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอให้ข้อมูลกันนิดนึงเรื่องสายการบิน เราบินกับสายการบิน Etihad Airline ไป stop over ที่อบูดาบี ค่ะ ไม่เคยบินกับสายการบินนี้มาก่อน แต่ยอมรับเลยว่าเป็นครั้งแรกที่ประทับใจมาก หนังที่มีให้ดูบนเครื่องคืออัพเดท ทุกที่นั่งมีช่องให้ชาร์จมือถือ อาหารอร่อยลิ้น และแอร์มารยาทดีงาม

 

 

ส่วนที่พักเราขอแนะนำโฮสเทล ชื่อ St.Pancras youth hostel (YHA) ค่ะ ข้างในมันก็เหมือนโฮสเทลทั่วๆไป มีห้องหลายแบบ มีคอมมอนรูม และราคาสบายกระเป๋า แต่จุดขายมันอยู่ที่โลเคชั่นซึ่งห่างจากรถไฟใต้ดินสถานีKing’s cross St. Pancras แค่ 250เมตร แปลง่ายๆคือเดินจากรถไฟแป๊ปเดียวก็ถึงอ่ะ ชีวิตดี สะดวกสบาย ไม่ใช่แค่เพราะสถานีKing’s cross เป็นสถานีที่สายรถไฟเกือบทุกสายเข้าถึงเท่านั้น แต่ตรงข้ามที่พักยังเป็น British library และเดินย้อนไปหน่อยก็จะเจอ British museum แหมะ ของงี้ไม่ดีจริงไม่บอกต่อนะเห้ย ใครสนใจก็ลองไปดูในลิงก์ก่อนได้ค่ะ
–    http://www.yha.org.uk/hostel/london-st-pancras
–    http://bit.ly/1YOTgk1

 

 

ตั๋วเครื่องบินมีแล้ว ที่พักมีแล้ว วีซ่ามีแล้ว อ่านกระทู้นี้จบแล้ว ก็เหลืออีกแค่อย่างเดียวแล้วแหละที่พวกนายต้องทำ คือ หาซื้อ Oyster card บัตรมหัศจรรย์ที่สามารถพาพวกนายท่องโลกลอนดอน เปิดประสบการณ์ขนส่งมวลชนสุดล้ำให้การเดินทางท่องเที่ยวของพวกนายไม่มีสะดุด สามารถหาซื้อบัตรมหัศจรรย์นี้ได้ที่ที่พวกนายไปทำวีซ่านั่นแหละ ถ้าใครอยากจะเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า Oyster card นี้มากขึ้นก็ลิงก์นี้เลยยยยยยยยยยยยย  http://bit.ly/1MExNTU

 

 

ยังไงล่ะ พร้อมกันยังอ่ะ พร้อมกันยังงงงงงงงงง ไปลอนดอน 7 วันอ่ะพร้อมยังเห้ย ไม่ต้องแพลนไรเลยเนี่ย ทำให้ทุกอย่างแล้ว แต่ละวันเที่ยวไหนมั่งคือเรียงไว้ให้หมดแล้ว ที่ไหนใกล้ที่ไหนก็เรียงให้แล้วววววววว ไปสวยๆเลย ไปแต่ตัว แต่ขออีกนิดนึงจะได้เดินกันไม่หลงเนอะ มีแอพพลิเคชั่นนี้ติดตัวกันนิดนึง ชื่อแอพ My transit guide รวมแผนที่และก็เส้นทางของรถไฟใต้ดินกับรถบัสไว้ครบเลยในแอพเดียว หรือถ้าอยากศึกษาก่อนก็ลิ้งค์นี้เลย แผนที่ซูมเข้าซูมออกได้สบายๆ จะได้ไปแบบโปรๆ ฮั่นน่ะ
–    http://transitmaps.tumblr.com/image/17423082388 อันนี้ของบัส กับสถานที่ท่องเที่ยว (attractions)
–    https://tfl.gov.uk/maps/track/tube    อันนี้ของรถไฟใต้ดิน

 

 

เรา แม่ พี่ชาย และน้องชาย ถึงสนามบิน Heathrow airport ลอนดอน ตอน 6โมงเย็นนิดๆ กว่าจะพยุงตัวไปถึงที่พักก็ประมาณสองทุ่มแล้ว แต่ฟ้านี่ยังสว่างยังกะ 5โมงเย็น อากาศหนาวเอาเรื่องอยู่เหมือนกันสำหรับสาวเอเชียร่างบางๆคนนึง(หรอ?) ในใจคิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะถึงพรุ่งนี้เช้า อยากจะเห็นจริงๆเมืองที่เค้าว่ากันว่าผสมผสานความทันสมัย ความดั้งเดิม และศิลปะได้แบบลงตัวพอดี๊พอดี เข้ากั๊นเข้ากัน ยิ่งกว่าเป๊ปซี่กับป๊อปคอร์น… แหมะ รอมาตั้งกี่ปีแล้วรออีกคืนเดียวคงไม่เป็นไร : )

ศุกร์ที่ 10 เมษา 2558 ครอบครัวชาวไทยออกจากที่พักตั้งแต่ 8โมงเช้า มุ่งหน้าไปยังแลนมาร์คของเมืองนี้อย่างไม่ลังเล นั่นก็คือ Tower of London และ Tower Bliss เอ้ย Tower Bridge ก็ไทน์อินชื่อเพจแหละ bliss out there แหละ กลัวลืมๆๆ … ค่ะ จะไม่ไปได้ยังไงในเมื่อมันดังขนาดที่ศิลปินหญิงชื่อดังของเกาะอังกฤษอย่าง Fergie วง Black eyed peas เค้าเอามาตั้งเป็นชื่อเพลงของเค้าเลย ทั้งสองที่นี้ถ้าใครอยากเข้าชมข้างในก็ได้ หรืออยากไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศจากข้างนอกก็เฟี้ยวฟ้าวไม่แพ้กัน สำหรับเราไม่ได้เข้าไปข้างในค่ะ แต่ก็มีข้อมูลมาให้สำหรับคนที่สนใจเนอะ ทั้งสองที่อยู่ใกล้รถไฟใต้ดินสถานี tower hill  สายที่ไปถึงคือสาย circle กับ district ค่ะ

 

 

Tower of London เป็นที่รวมข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับสวยงามต่างๆของราชวงศ์อังกฤษ เปิดวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่ 9โมงเช้าถึง 5 โมงครึ่งค่ะ ส่วนวันอาทิตย์กับวันจันทร์เปิด 10โมงถึง 5 โมงครึ่ง ค่าเข้าชม 22ปอนด์ เน้นๆ ใครไม่แน่ใจเรื่องความคุ้มค่าของราคาบัตรก็ลองเข้าไปดูรูปกันก่อนได้http://www.hrp.org.uk/TowerOfLondon/ ส่วน London Bridge จะมีนิทรรศการจัดอยู่ด้านบน เปิดทุกวัน 9โมงครึ่งถึง 5โมงเย็น ถ้าใครสนใจเข้าชมก็จองตั๋วกันเลยที่ http://www.towerbridge.org.uk/ เย้เย

 

 

ถ่ายรูปตากลมชมวิวบนสะพานกันแต่พอควร อย่านานๆๆๆๆๆ มีที่อื่นต้องไปหน่า ไม่ได้ว่างหน่า… จากสะพานเดินมาเรื่อยๆ จะเจอทางเดินริมแม่น้ำเทมส์ หรือที่เรียกว่า Queen’s walk ค่ะ ที่นี่นอกจากอากาศจะดี ลมตีหน้าตลอดวันแล้ว ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่กว้างขวางให้คนมานั่งมานอนพักผ่อนแบบไม่เสียเงินเลยสักปอนด์ นอนสบายกันจนเราคิดในใจว่า เห้ย กลับบ้านนอนมั้ยเพื่อน แถมมองไปเห็นวิวดีๆ เรือสวยๆอีก ใครไปลอนดอนก็แวะไปชิวกันได้เลย แนะนำ

 

 

เดินกันมาจนสุด Queen’s walk ก็จะเจอ…ถนน…ให้เดินต่อไป…เดินต่อไป…แล้วก็เดินต่อไป เป้าหมายของเราคือพิพิธภัณฑ์สุดชิคที่ชื่อ Fashion and textile museum ค่ะ ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้จัก แต่ข้อมูลที่หามามันบอกว่าอยู่แถวนี้นี่หน่า…เอาไงดีวะ หาไม่เจอซะที…เห้ยฝั่งนู้นมีไรอ่ะ ข้ามๆๆๆๆๆ…ตรงทางเข้ามีป้าย Borough Market อยู่ คือไรไม่รู้แหละไม่ได้หามา แต่แม่บอกอยากกินผลไม้ อ่ะเข้าก็เข้า

 

 

เข้าไปนี่ถึงกับต้องร้องออกมาว่า ตู้วหูวววววววววววววววววววววววววว คือดียยยยยยยยยยยยย์ ร้านค้าจัดเป็นสัดส่วน ทั้งตลาดตกแต่งได้เป็นมูทแอนโทนเดียวกัน ผักสด ผลไม้สดขนาดใหญ่กว่าบ้านเราเป็นเท่าตัว อาหารทะเล เนื้อสัตว์ หรืออะไรก็ตาม มันดูสะอาด ดูมีราคาไปหมด ไหนจะขนม เบเกอรี่ งานฝีมือที่พวกฝรั่งเค้าทำมาขายกัน เห็นแล้วไม่อยากกลับมาตลาดบ้านเราเลย เจอแต่คุณป้านั่งปัดแมงวันอยู่บนแผง5555555555 วันแรกก็รับความบริทิชแบบเต็มๆกันซะแล้ว คิดไม่ผิดจริงๆที่แวะเข้ามา

 

 

ไหนๆก็ไหนๆแล้วกินอาหารประจำชาติเค้าหน่อยแล้วกัน… Fish and chips

 

 

อ้าวๆๆๆๆๆ ยังไงเนี่ยไอครอบครัวเนี้ย นอกลู่นอกทางงงงง เดี๋ยวก็ไปไม่ถึงมิวเซี่ยมอ่ะเห้ย ออกมารีบทำเวลาเลย เดินไปตามทางที่วัยรุ่นคนนึงบอก หลงมั่งไรมั่งแต่ก็เจอจนได้ เยยยยยยยยยยยยยย่ ตึกสีส้มสดกับประตูสีบานเย็น มองจากไกลๆก็รู้เลย สำหรับใครที่ไม่ได้สนใจด้านงานดีไซน์หรือแฟชั่นก็ไม่ต้องมาที่นี่ก็ได้ค่ะ แต่พอดีพี่ชายเราเรียนด้านนี้ก็เลยขอมีสาระซะหน่อย ส่วนคนที่สนใจ มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ข้างในดีงาม ดูกันคุ้ม ค่าเข้า 8.80ปอนด์ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ค่ะ เปิด 11โมง เวลาปิดแต่ละวันไม่ตรงกัน ถ้าดูรูปเราแล้วรู้สึกว่าที่นี่เข้าตาพวกนายก็ลองไปเช็คในเว็บเค้าก่อนได้ แปะไว้ให้ค่ะ http://ftmlondon.org/

 

 

ออกจากมิวเซี่ยมมาขึ้นรถไฟใต้ดิน ไปอีกมิวเซี่ยมนึงที่พีคไม่แพ้อันก่อนหน้าค่ะ ที่นี่ชื่อพิพิธภัณฑ์ Tate Modern รวมงานศิลปะร่วมสมัย และสมัยใหม่ไว้มากมายหลากหลายตั้งแต่ปี 1990 พูดเป็นเล่นไป พิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีคนเข้าชมมากที่สุดในโลกที่นึงเลยนะ! แต่ไม่ต้องกลัวว่าคนเยอะแล้วจะเบียดเสียดแออัด เพราะที่นี่กว้างและใหญ่มากกกกกกกกกกกก มีตั้ง 7ชั้น ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้า! เสพอาร์ตกันตาแฉะค่ะงานนี้ รู้สึกเป็นบ่ายที่สุนทรีย์ที่สุดบ่ายนึงในชีวิต วิธีไปก็ง่ายค่ะ นั่งใต้ดินสาย Jubilee ไปลงสถานี Southwarkแล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงเลย

 

 

ใครไปพิพิธภัณฑ์นี้ก็ถือซะว่าได้สะพานแฮร์รี่ เอ้ย สะพาน Millennium เป็นของแถมละกัน จะมาเรียกสะพานแฮร์รี่นี่ไม่ได้หน่า เจ๊งหน่า เค้ามีชื่ออยู่ ชื่อ Millennium bridge เป็นสะพานที่ถูกบิดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม แหมะ สุดคูล

 

 

ปิดท้ายวันแรกด้วยย่านเอ็นเตอร์เทนเมนท์อย่าง Piccadilly circus ถนนช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ใหญ่จริงๆ ถ้าเทียบกับนิวยอร์คที่นี่คือ Time square ค่ะ มันใหญ่ถึงขนาดที่ต้องยกสถานีรถไฟใต้ดินให้พี่แกไปเลยหนึ่งสถานีตามชื่อย่าน แถมจะไปถึงที่นี่ได้ยังต้องนั่งรถไฟสาย Piccadilly อีก โฮ้โห ไปชมกันเลยไปปปปปป : )

 

 

เช้าแล้วววววววววววววววววววววววว ตื่นๆๆๆๆ ลุกๆๆๆๆ รู้ว่าอากาศดี เตียงก็ดูด แต่วันนี้ต้องขอจริงๆ เพราะเราจะออกไปนอกเมืองกันค่ะ ให้ทายว่าที่ไหนนนนนนนนนนนนนนนน… Cambridge ใช่เลยยยยยยยยยยย รู้ได้ไงเนี่ยยยยยย เก่งใช่ย่อย วันนี้ขอออกนอกลอนดอนพาพวกนายไปดูเมืองที่เค้าว่าเป็นแหล่งรวมมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกกันหน่อย ไม่ว่าจะเป็น King’s college, Trinity college, St. John’s college สปอยไว้ก่อนเลยว่าสวยงามควรค่าแก่การไปมากค่ะเมืองนี้ วิธีไปก็ไม่ยากเลยขึ้นรถไฟที่สถานี King’s cross รถไฟไป Cambridge มีตลอดทั้งวันค่ะ แต่ที่แนะนำให้ไปแต่เช้าเพราะจะได้อยู่ที่นั่นได้นานๆ ค่าตั๋วรถไฟ 23 ปอนด์เบาๆ ใช้เวลาแค่ 45นาทีก็ถึงค่ะ

 

 

จากสถานีรถไฟ Cambridge พวกนายสามารถเดินทางไปที่เซ็นเตอร์ของเมืองได้โดยรถบัสค่ะ ใครคิดไม่ออกว่าจะไปทำอะไรในเมืองนี้ไม่ต้องกลัว พวกนายมีอะไรทำแน่นอน ก่อนอื่นเลยแวะตลาดน่ารักๆ อย่าง Market square ดูบรรยากาศยามเช้าของเมืองนี้ซะหน่อย มีร้านอาหาร ร้านขายของสด ร้านดอกไม้ แล้วก็พวกของฝากค่ะ

 

 

หลังจากนั้นขึ้นไปชมวิวของ Cambridge จากมุมสูง 360 องศา ที่โบสถ์สวยๆ อย่าง Great St. Mary’s ซึ่งดีจริงๆดีดี๊ดีดี๊ดี ถึงทางขึ้นจะเป็นบันไดวนที่เล็กและสูงพอสมควร แต่ขึ้นไปแล้วจะพบกับความคุ้มค่าแน่นอน คอนเฟิม ที่นี่เปิดวันจันทร์-เสาร์ 10โมงเช้าถึง 5โมงเย็น ค่าขึ้นไปดูวิว 3.80 ปอนด์ เท่านั้นเองงงงงงงงงง หวังว่าจะชอบรูปที่เอามาฝากกันนะ

 

 

ลงมาจากโบสถ์ก็เตรียมตัวไปลุยกิจกรรมต่อไปกันเลย เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมสุดฮิตที่คนไปเคมบริดจ์ต้องทำเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือออออออออออ นั่งเรือล่องแม่น้ำ Cam ชมมหาวิทยาลัยต่างๆในเคมบริดจ์ ค่ะ กิจกรรมนี้ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล ขอแค่คุณยืนนิ่งๆค่ะ นิ่งๆเลย ทำหน้างงเป็นนักท่องเที่ยวหลงยุคเข้าไว้ จะมีคนเดินเข้ามาชวนคุณเอง5555555555555555 หรือมองหาหนุ่มๆที่ถือแผ่นกระดาษใบใหญ่ๆในมือไว้ค่ะ พวกเขาเป็นนักศึกษาที่หารายได้ด้วยการพาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์นี่แหละ เมนูกิจกรรมก็เหมือนเมนูอาหารเลย เลือกกันได้ตามใจชอบ เรากับครอบครัวก็เลือกไอการนั่งเรือสุดฮิตนี่แหละ โดนไปคนละ 10ปอนด์ แต่สี่คนเค้าเลยลดราคาให้ รู้สึกจะเหลือสี่คน 35ปอนด์ค่ะ กิจกรรมนี้ใช้เวลาไม่เกิน1ชั่วโมง แถมเรือก็นั่งสบายมีผ้าปงผ้าปู มีคนพายให้ เล่าประวัติแต่ละมหาลัยให้ฟัง สรุปคือเป็น 1ชั่วโมงที่คุ้มค่าและผ่านไปเร็วมาก

 

 

นั่งกันมานานแล้วเดี๋ยวเลือดจะไม่ไปเลี้ยงขาเอาค่ะ กิจกรรมต่อไปเลยเป็นการเดินเล่นแบบฟรีสไตล์ในบริเวณ City Centre เก็บบรรยากาศ เข้าร้านที่อยากเข้า สโลไลฟ์กันไป

 

 

อันนี้เป็นตลาดขายงานศิลปะกับพวกงานฝีมือค่ะ น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

 

5โมงนิดๆ เป็นเวลาที่พวกเราออกจากเคมบริดจ์ กลับไปลอนดอนค่ะ ขากลับก็ง่ายๆเหมือนขามาเลย แต่ใจเย็นพวกนาย วันนี้ยังไม่จบ เรายังไม่กลับที่พักง่ายๆ มาเที่ยวทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม ถึงสถานี King’s cross ปุ๊ปพวกเราก็ต่อรถไฟใต้ดินไป Covent Garden เลยค่ะ … Covent Garden ถ้าพูดให้เห็นภาพก็อารมณ์เอเชียทีคบ้านเรา แต่ที่นี่ร้านค้าเค้าจะดูไฮกว่า บรรยากาศมีความ originalมากกว่า เดินกันไม่นานค่ะเพราะหิวแล้ว และคุณแม่นางก็คิดถึงอาหารเอเชียๆ (ทั้งที่เพิ่งวันที่สอง) เลยเดินต่อไปSohoเพราะมันใกล้กัน แล้วปิดท้ายวันที่สองด้วยอาหารจีน…มาถึงลอนดอนกินอาหารจีน…ว่าไม่ได้ค่ะเค้าออกเงินให้เรามา555555555

 

 

เป็นไงสองวันแรก พอได้มั้ยๆๆๆ ซึมซับความเป็นบริทิชกันมั่งยัง ถ้ายัง วันนี้จะพาไปลุยกันต่อ บอกเลยว่าที่ที่จะพาไปวันนี้เป็นที่ที่เราชอบที่สุดในลอนดอน แต่ก่อนจะไปที่ที่ว่า ขออนุญาตพาพี่ชายน้องชายสุดที่รักและสาวกเชลซีทุกคนไปที่นี่ก่อนเลย Stamford Bridge : Chelsea stadium and museum ไกลจากใจกลางเมืองนิดนึง เหมือนนั่งบีทีเอสจากสยามไปหมอชิต แล้วต่อใต้ดินไปบางซื่อ โดยขึ้นสาย District ไปลงสถานี Fulhambroadway ที่นี่พวกนายจะได้พบกับห้องเก็บตัวนักฟุตบอล เสื้อผ้าของเหล่านักเตะ และทุกอย่างที่สาวกเชลซีฝันจะได้มาเห็น มีค่าเข้าชม 20ปอนด์ ค่ะ ใครสนใจก็ดูรายละเอียดแล้วจองตั๋วได้เลยที่เว็บนี้ http://www.chelseafc.com/the-club/Museum-stadium-tours.html

 

 

หลังจากส่งพี่ชายน้องชายถึงฝั่งฝัน เรากับแม่ก็ขอแยกตัวไปทำอะไรแบบผู้หญิงๆ นั่นก็คือ เดินตลาด…แต่เดี๋ยว อย่าเพิ่งคิดว่าเดินตลาดอีกแล้วหรอวะ สองวันแรกก็พาไปตลาด นี่มาตลาดอีกละ ใจเย็นๆๆๆๆๆ เพราะที่ที่จะพาไปวันนี้มันไม่ใช่ตลาดธรรมดาๆ มันคือตลาดวินเทจ ขายเสื้อผ้าแนวๆที่เห็นแล้วต้องตกใจ เพราะนึกว่าหลุดไปในยุค90…นี่ถ้าเดินเจอ the beatles ที่นี่ก็คงไม่แปลกใจ ไหนจะเครื่องประดับสวยๆ งานฝีมือ กล้องฟิล์ม เครื่องดนตรี มีหมด แต่ที่พีคที่สุดเลยคือ Street Art ของที่นี่ ซึ่งมีอยู่แทบทุกซอกทุกซอย ทุกตึกทุกผนัง เดินดูของไปได้เสพงานอาร์ตไปด้วย ดีจริงอะไรจริงค่ะ และดีขึ้นไปอีกเพราะวันที่เราไปมันมีนิทรรศการอาหารนานาชาติอยู่ ก็เดินกันมันส์เลยสิคะทีนี้ คุณแม่นี่ไม่อยากออกจากตลาดนี้เลย เกริ่นมาตั้งนานเดี๋ยวจะลืมบอกชื่อ ที่นี่ชื่อ Bricklane market ค่ะ ลงสถานี Aldgate east นั่งสาย Metropolitan, Central, Circle หรือ Hammersmith & city ก็ได้ค่ะ… ไปนะไป ไปเถอะ

 

Related Post

 

หักห้ามใจออกจาก Brick lane Market มาได้แล้ว เรากับแม่ก็ไปต่อที่ Camden Lock ค่ะ เพราะนัดเจอพี่ชายกับน้องที่นั่น แต่ถามว่าเจอกันมั้ยยยยยยยยยย…ไม่เจอ555555555555 ไม่เป็นไรค่ะไม่เป็นไร โตๆกันแล้วกลับไปเจอที่ที่พักก็ได้… Camden Lock เป็นเหมือนตลาดปนถนนคนเดิน เหมือนถนนข้าวสารปนสยาม แต่ที่นี่เค้าเปิดเฉพาะกลางวัน กลางคืนไม่เปิดค่ะ ก็มีทุกอย่าง ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของฝาก ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เรียกได้ว่าครบวงจรมากๆ แต่แนะนำอย่าไปเสาร์อาทิตย์ คนจะเยอะแบบบรมมมมมมมมม โดยส่วนตัวเราชอบตลาดแบบ Brick lane มากกว่า แต่ว่าไม่ได้ของแบบนี้ แล้วแต่คนจริงๆ ต้องลองไปดูค่ะ : )

 

 

เหนื่อยกันยังงงงงงงงงงงงง ครึ่งทางแล้วหน่า ตอนนี้เท้าบวมมากเลย อยู่ไทยอาทิตย์นึงยังเดินไม่เท่าอยู่ที่นี่สองวันค่ะบอกเลย แต่ถึงจะเหนื่อยยังไงวันนี้ก็ต้องลุยกันต่อ ที่ที่เราจะไปวันนี้มีแต่สถานที่แลนมาร์คทั้งนั้นเลยอ่ะแกรรรรรรรรรรร ไม่ว่าจะเป็น London eye, Bucking ham palace, House of Parliament, BigBen และอื่นอื่นนนนนนนนนนนนนนนน เพราะฉะนั้น ตื่นค่ะ ลุกค่ะ ทำเวลาค่ะ ไป!

เริ่มต้นวันที่สี่ด้วยสถานที่ยิ่งใหญ่อลังการอย่าง Buckingham palace ที่เราเข้าไปไม่ได้…แป่ววววววววววว ก็เพราะว่าที่นี่เค้าเปิดแค่บางช่วงค่ะ ปีนี้เค้าเปิดช่วงสิงหา กันยา ก็เลยได้แค่ไปยืนตรงทางเข้า มองเข้าไปแล้วจินตนาการถึงข้างในเอาเอง เศร้าสุดๆ รูปที่ถ่ายมาก็มีแต่มวลความเศร้าปกคลุมอยู่…ที่นี่ไปง่ายค่ะ นั่งใต้ดินสาย Piccadilly หรือ Victoria ลงสถานี Green park, Hyde park corner ถ้าใครจะไปก็ลองเช็ครายละเอียดในเว็บนี้ได้เลยยยยยยยยยยยยย http://buckinghampalace.londonpass.com/

 

 

มาต่อกันที่ Westminster Abbey อีกหนึ่งวิหารที่สวยติดท๊อปชาตของเกาะอังกฤษ ที่นี่ยูเนสโก้ (UNESCO) เคยให้เป็นมรดกโลกด้วย ถ้าไม่ไปก็ยังไงอยู่ ตั๋วเข้าชมไปซื้อได้ที่นี่เลย ค่าเข้าคนละ 20ปอนด์ ค่ะ ราคานี้รวม audio guideแล้ว เรียกได้ว่าเอาใจและให้ความรู้นักท่องเที่ยวกันแบบสุดๆ ถ้าจะไปก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย circle ก็ได้ สาย district ก็ดี ลงสถานี Westminster ค่ะ

 

 

เดินไปข้างหลังWestminster Abbeyนิดเดียว ข้ามถนนไปอีกหน่อยเดียว ก็จะเจอ House of Parliament และ Big ben สถาปัตยกรรมสีน้ำตาลออกเหลืองที่อยู่เรียงกันเป็นแถบบบบบบบ ถ่ายรูปกันให้คุ้มนะพวกนาย มุมตรง มุมช้อน แนวนอน แนวตั้ง อย่าให้เหลือนะเห้ย สำหรับสองที่นี้ใครอยากเข้าไปข้างในก็เข้าได้ ค่าเข้าพร้อม audio guide ราคา 14ปอนด์เท่านั้นเอง หรือถ้าเบื่อโลกเบื่อคนอยากจะดูแค่ข้างนอกก็ไม่มีใครขัดอยู่แล้วนะฮะ ชิลๆ

 

 

“ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่ มันจะไปจบที่ตรงไหน เมื่อเดินเท่าไหร่มันก็ไปไม่ถึง เดินต่อช้าๆไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น” โอยยยยยยยยยยยยย อินกับเพลงนี้มากค่ะทริปนี้ เดินกันเยอะเหลือเกิน จากที่นี่ไปที่นู่น จากที่นู่นไปที่นั่น เดินข้ามสะพาน Westminster มา ก็ไม่ไหวแล้ว ขอพักกินข้าวก่อน กินเสร็จแล้วค่อยไปลุยกันต่อที่ London eye ค่ะ ซึ่งก็เดินไปอีกเหมือนกัน แหมะ คนอะไรจัดตารางดีจริงๆ เที่ยวสะดวกจริงๆ น่าติดตามจริงๆ…โอเค พอก็ได้

สวนและทางเดินรอบๆ London eye เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมตัวอาชีพสร้างความสุขให้ผู้อื่นหลายๆอาชีพเลยทีเดียว ดูแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ค่ะ

 

 

ก่อนขึ้นไปชมวิวบน London eye เราอยากพาพวกนายไปทำอะไรเฟี้ยวๆกันก่อน นั่งเรือล่องแม่น้ำเทมส์ ชมวิวทิวทัศน์แบบสโลๆกันไป พร้อมด้วยไกด์สำเนียงดีพูดจาชัดเจน คอยให้ข้อมูลและความบันเทิงตลอดการล่องเรือ กิจกรรมสุดเฟี้ยวนี้เสียเงินเพียงแค่ 11ปอนด์นิดๆเท่านั้นค่ะ ถือว่าคุ้มค่าอยู่ ใครสนใจก็จองในเว็บก่อนได้ จะถูกกว่าไปซื้อตั๋วที่นู่นค่ะ https://www.londoneye.com/tickets-and-prices/river-cruises/

 

 

นั่งนานระวังตูดบานนะไอบ้า รีบเลยรีบเลยยยยยยยยยยย กิจกรรมต่อไปเป็นไฮไลท์ของวันนี้นะเห้ย ตั๋วเต๋ออะไรไม่ต้องซื้อ จองมาจากบ้านแล้ว เดินขึ้น London eye แบบชิคๆกันไปแม่ลูก พนักงานคงคิดในใจไอครอบครัวเอเชียนี่คูลเอาเรื่องอยู่ว่ะ

กะด้วยสายตา หนึ่งกระเช้าน่าจะจุคนได้ประมาณ 30คน แต่เค้าให้เข้าไปแค่ 6-8คน ซึ่งก็ดีค่ะ มีความไพรเวท มีความกว้างขวาง เดินเล่นได้เลยแหละ แถมพวกนายยังสามารถเจาะลึกเรื่องราว London eye ด้วยจอ LCD ระบบสัมผัสที่มีไว้ให้ในกระเช้า ขึ้นไปก็มองเห็นเมืองนี้แบบเต็มอิ่มจริงๆ ถ่ายรูปให้คุ้มค่ะขอย้ำ กระหน่ำชัตเตอร์เข้าไปค่ะ นี่ทางไปจอง https://www.klook.com/th/activity/3403-london-eye-ticket-london/?aid=3215

 

 

เพิ่งบ่ายสี่โมงจะกินข้าวเย็นเลยก็ยังไงอยู่ ขออนุญาตงัดสถานที่สำรองออกมาเลยละกันตอนนี้ หาไว้เผื่อได้ไปค่ะ แล้วก็ได้ไปจริงๆ มันคือถนน Charing Cross เป็นย่านร้านหนังสือ ที่รวบรวมหนังสือทุกแนวไว้ตั้งแต่รุ่นเดอะ! นักอ่านนักเขียนคนไหนไปลอนดอนบอกเลยว่าไม่แวะไม่ได้ นี่ไปแค่สองชั่วโมงได้หนังสือติดมือกลับมา 5เล่ม (เกรงใจน้ำหนักกระเป๋าตอนบินกลับด้วย) เดินเสร็จก็หาร้านอาหารแถวนั้น ปิดท้ายวันที่ 5ในลอนดอนแบบอบอุ่นกันอีกแล้วที่ร้านอาหารจีน… เห้ออออออออออออออออ

 

 

เช้าวันนี้นึกขึ้นได้ นี่มันวันที่ 14เมษานี่หว่า วันนี้วันสงกรานต์นี่หว่า เมื่อวานก็ด้วย พรุ่งนี้ก็ด้วย เซ็งจริง อดเล่นน้ำที่ไทยเลยยยยยยยยยย งั้นเอางี้ละกัน ไปเที่ยวที่ที่มีน้ำกันหน่อย มันจะได้ชุ่มชื่นสายตา เช้านี้เราพาพวกนายไปสูดอากาศสดชื่นๆกันที่สวนสาธารณะ Hyde Park ค่ะ นั่งใต้ดินสาย Piccadilly ไปลงสถานี Hyde park corner เท่านี้ก็ถึงแล้ว หากสวนลุมเปรียบเหมือนเอกลักษณ์ของกรุงเทพฉันใด Hyde park ก็เป็นดั่งซิกเนเจอร์ของลอนดอนฉันนั้น เหมาะมากสำหรับคนที่มองหาที่พักผ่อนหย่อนใจและสีเขียวในเมืองที่เจริญอย่างนี้ ที่นี่นอกจากเดินเล่น นั่งเล่น พวกนายยังสามารถปั่นจักรยาน นั่งเรือ ขี่ม้า และดูความน่ารักของเป็ดน้อยสารพัดสายพันธุ์ได้อีกด้วยค่ะ

 

 

 

เดินชิลในสวน เลยทะเลสาบที่มีเป็ดมีหงส์มาเรื่อยๆ พวกนายจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำ พอข้ามสะพานไปก็เจอทางออกทางออกนึง จำไม่ได้จริงๆว่าทางออกหมายเลขอะไร แต่ก็ถามคนแถวนั้นได้ค่ะ เพราะมันเป็นทางออกเดียวที่จะพาพวกนายไปสู่สถานที่ต่อไป นั่นก็คืออออออออออออ Natural Museum นั่นเอง ที่นี่เข้าฟรีไม่เสียเงิน แถมได้สาระความรู้แบบเต็มๆ แต่ช้าก่อนนนนน ถ้าพวกนายคิดว่าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต้องน่าเบื่อแน่ๆ เราบอกเลยว่าพวกนายคิดผิด เพราะที่ Natural Museum เค้าออกแบบการจัดแสดงได้ดีมากๆ แต่ละโซนมีธีมชัดเจน รับรองว่างานนี้มีเข้าไปแล้วลืมว่าต้องออกไปที่อื่น…อ่ะ ไปชม

 

 

พอออกมากจาก Natural Museum มิวเซี่ยมงานดีงานละเอียดอีกอันก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ เดินเลยไปนิดเดียว มีป้ายบอกทางตลอด มันคือ Victoria and Albert art museum ข่าวดีสำหรับพวกเราชาวนักท่องเที่ยวอีกแล้ววววววววววววววว เข้าฟรีคร้าบบบบบบบบบบ

 

 

เอ๊ะ ลืมบอกไปว่าวันนี้ไฮไลท์ของเราอยู่ที่ Harry Potter Studio แต่ตอนนี้ยังเหลือเวลา เลยขอพาไปแวะห้างชื่อดังกันสักกะนิดสักกะหน่อย บอกเลยว่าดังจริงๆ พวกนายรู้จักแน่นอน ก็พี่ไทยเล่นก๊อปกระเป๋าของห้างเค้าขายทั่วคลองถม ประตูน้ำซะขนาดนี้… มันคือ ห้าง Harrods นั่นเอง สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ Knightsbridge นั่งสาย Piccadilly ค่ะ วินาทีที่เข้าไปในห้างคือวินาทีแห่งการกอบโกยของคนไทย โอ้โห คนไทยเยอะมาก ตกลงนี่แฮรอทหรือเดอะมอลล์บางแค ซื้อขนม ของฝาก กระเป๋ากันแบบตายแล้วววววววววววววววว จะเอาไปขายต่อหรอ แต่ก็ว่าไม่ได้แหละคุณแม่เราก็ใช่ย่อย55555555555 คนไทยนี่ทำเอาผู้ดีอังกฤษยืนงงกันไปเลยค่ะ สุดยอดจริงๆ ป.ล.ห้างนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในนะครับบบ ใครไปก็อย่ามือบอน เดี๋ยวโดนจับเอาไม่คุ้มน้า

 

 

เดินช้อปปิ้งกันจนรู้สึกผิด เลยออกมานั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Euston เพื่อต่อรถไฟแบบ Railway ไปยังสถานี Watford junction เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของ The Making of Harry Potter warner bros. studio ค่ะ ก่อนไปอย่าลืมจองตั๋วกันก่อนที่ https://www.klook.com/th/activity/6849-warner-bros-studio-tour-harry-potter-london/?aid=3215 ราคาสูงเอาเรื่องอยู่ แต่ถ้าเทียบกับประสบการณ์ที่พวกนายจะได้สัมผัสก็คือคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

 

 

พอไปถึงสถานี Watford junction จะมีบัสจากสตูดิโอมารับค่ะ ไปถึงก็ตื่นตาตื่นใจกันนิดนึงเพราะตรงทางเข้านี่คนเยอะใช้ได้เลย เค้าจะนับคนให้เข้าไปเป็นรอบๆ แต่ละรอบมีไกด์บรรยาย 1คนค่ะ ข้างในก็จะมีทุกอย่าง ตั้งแต่ เสื้อผ้านักแสดง ฉาก พร๊อพ โมเดลสิ่งก่อสร้างและทุกอย่างที่เกี่ยวกับภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่ที่ครองใจคนดูเรื่องนี้ ขนาดเราไม่ใช่แฟนคลับแฮร์รี่อะไรขนาดนั้น ยังอดที่จะอึ้งจนน้ำตาคลอเบ้าไม่ได้ ของทุกชิ้นทุกอันในหนังที่เราดูตั้งแต่ประถม มันได้มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ได้จับมันแล้ว นึกไม้กายสิทธิ์ในร้านโอลิเวนเดอร์ออกมั้ย มันมีตั้งไม่รู้กี่พันกล่อง ทุกกล่องเค้าทำไม่เหมือนกันเลย แค่นี้ก็ขนลุกแล้ว ไหนจะเบื้องหลังการถ่ายทำ เทคนิคการขี่ไม้กวาดหรืออะไรก็ตาม พวกนายจะได้ไขความข้องใจทุกอย่างที่นี่ ไม่อยากเล่าเยอะเดี๋ยวไม่ไปกัน ดูรูปเอาๆๆๆๆ แล้วไปด้วยนะ! สัญญาก่อนนนนนนนนนน

 

 

อันนี้ห้องใต้บันไดของแฮร์รี่ค่ะ

 

 

มาต่อกันที่ห้องโถงใหญ่ในฮอกวอตส์

 

 

ห้องของศาสตราจารย์ดัมเบิ้ล ดอร์

 

 

ก็ปรุงยาเสน่ห์กันไป

 

 

ตรอกไดอากอนค่ะทุกคน

 

 

อ่ะ เผื่อใครอยากลองขี่ไม้กวาด

 

 

งานโมเดลก็มา

 

 

อรุณสวัสดิ์คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ เช้านี้ขอเริ่มวันดีๆด้วยสถานที่ที่ใกล้ที่พักกันหน่อยแล้วกัน แหมะ อยู่ใกล้แค่นี้เองจะไม่ไปก็ยังไงอยู่ มันคือ British Museum ค่ะ จากที่พักเดินไปก็ประมาณ 20 นาที  ที่นี่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ประจำชาติเค้าค่ะ ยิ่งใหญ่สวยงามสมคำล่ำลือจริงๆ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10โมง ถึง 5โมงครึ่ง และที่สำคัญ…เข้าฟรี จะว่าไปทริปนี้ไปมิวเซี่ยมเยอะใช้ได้อยู่เหมือนกัน ได้ความรู้เยอะอยู่เหมือนกัน ถามว่ากลับไปจำได้มั้ย…ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

 

 

สถานที่ต่อไปก็จัดว่าเด็ดติดท๊อปของทริปนี้เหมือนกัน น่าเสียดายที่ด้านในเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ที่นี่คือ วิหาร เซนต์ พอล หรือ St.Paul’s Cathedral วิหารนะวิหาร ไม่ใช่โบสถ์นะเห้ย มันมีสองอัน อันนึงโบสถ์เซนต์ พอล อันนึงวิหารเซนต์พอล ตอนหาแผนที่ต้องดูดีๆ ที่เตือนนี่ไม่ใช่ไร…ไปผิดมาแล้ว ไปถึงโบสถ์ เซนต์พอล ยื่นตั๋วที่จองมาจากเน็ตให้เค้า เค้างงไปเลย บอกพวกยู นี่โบสถ์ พวกยูมาผิดแล้ว เจ๊งๆๆๆๆ แต่พอมาถึงที่จริง บอกเลยว่ายอมใจ คือสวยมากกกกกกกกกกกกกก สวยแบบ อยากจะแอบหยิบกล้องขึ้นมาจริงๆ เสียดายจริงๆ ที่นี่เอาไว้จัดงานสำคัญๆของราชวงศ์อังกฤษ ทุกอย่างในนี้เลอค่ามากๆ ไปง่ายๆ นั่งรถไฟใต้ดินสาย Central  ไปลงสถานี St. Paul’s เท่านี้ก็ถึงแล้วววว ถ้าใครอยากมาเห็นเองก็จองตั๋วในเว็บมาก่อน จะถูกกว่ามาซื้อที่นี่ 2ปอนด์ (ซื้อในเว็บ 15 ปอนด์) อันนี้ลิงก์ค่ะ https://www.stpauls.co.uk/  เออแล้วก็ อย่าลืมขึ้นไปดูวิวจากชั้นบนสุดนะ เดินหน่อย แต่วิวเด็ดใช้ได้อยู่

 

 

หลังออกจากเซนต์พอล เรา แม่ พี่ น้อง ตัดสินใจแยกย้ายไปทำความฝันของตัวเองค่ะ แม่กับน้องกลับไปที่ Chelsea Stadium เพื่อซื้อของสะสม เรากับพี่ตัดสินใจขึ้นรถบัสเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และไปลงที่ Piccadilly circus เพื่อเจอเพื่อนคนไทยที่นู่น เป็นวันสุดท้ายตารางเลยชิวหน่อย ให้พวกเราได้พักผ่อนกัน ก่อนที่พรุ่งนี้ต้องขึ้นรถไฟไปปารีสแต่เช้า

จำไว้พวกนายไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวไม่จำเป็นต้องไปกับทัวร์ และไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไป อ่านจบเดี๋ยวไปชวนพ่อแม่ไปกันเลยนะ 5555555555 ขอบคุณพวกนายทุกคนที่ติดตามเรื่องราวของเรา ทริปนี้อาจจะไม่มีอะไรหวือหวา เร้าใจ แต่เราหวังว่าหลังจากที่พวกนายอ่านจบแล้ว ดูรูปหมดแล้ว คงเหมือนได้ไปเที่ยวลอนดอนมาหน่อยนึงแล้วนะ : ) ที่เหลือจะเป็นยังไงก็ต้องลองไปกันเอง ใครต้องการข้อมูลอะไรก็ inbox มาได้ในเพจได้เลย ยินดีมากๆ อ่ะนี่ลิงก์ค่ะ https://www.facebook.com/BlissOutThere

 

Comments

comments