นอนในกระโจมสุดชิค ที่ Jumtla campiness จ.นครปฐม

นอนในกระโจมสุดชิค ที่ Jumtla campiness จ.นครปฐม

Jumtla campiness เป็นที่พักสไตล์ glamping ที่มี

เพียง 3 หลังเท่านั้น ในแต่ละหลังจะตกแต่งไม่เหมือนกันเลย

คอนเซ็ปท์ของเค้าคือ การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

อย่างสะดวกสบาย ไม่มีคำไหนเกินจริงเลย! ด้วยโลเคชั่นที่

อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ทำให้ได้วิวแม่น้ำเต็มๆ 

และทั่วบริเวณของที่พักปลูกต้นไม้เยอะมาก บวกกับ

การบริการแบบใส่ใจสุดๆ ดูแลเหมือนเราเป็นครอบครัวเค้า

และที่พิเศษสุดๆเลยคือมื้อเย็นนั้นเป็นแบบ chef table 

ซึ่งเชฟก็คือคุณยุ้ยเจ้าของบ้านไร่เกษมสุขนี้เอง

แกรรร มันอร่อยทุกอย่าง! และไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลย

ทุกอย่างรวมอยู่ในค่าห้องแล้ว คุ้มค่ากับการขับรถมามั่กๆ!

ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,250 บ./คน/คืน ไปจนถึง 2,100 บ./คน/คืน

(แล้วแต่หลังที่เลือก) ช่วงโควิดระบาดแบบนี้ใครอยากพักผ่อน

แต่ไม่อยากเจอคนเยอะ ทางที่พักจัดโปรเหมาแคมป์ให้ด้วย

จะได้มาพักผ่อนกันอย่างสบายใจเนาะ… ข่าวดีอีกอย่างคือ

Jumtla campiness ใจป้ำแจกส่วนลด 20% สำหรับโปรเหมาแคมป์

ให้กับทุกคนที่ตามเพจ Bliss Out There ไปเลยย 

ติดต่อที่พัก

– FB : https://www.facebook.com/jumtlaglampingresort

– เบอร์ : 0818065444

– FB : บ้านไร่เกษมสุข

– เบอร์ : 0818684792 (คุณยุ้ย เจ้าของบ้านไร่เกษมสุข)

พร้อมแล้วก็กดอ่านรีวิวกันได้เลย ใส่รายละเอียดไว้ให้แน่นมากก

รายละเอียดและราคาของโปรเหมาแคมป์มีตามนี้เลยนะคะ

เหมาะสำหรับช่วงโควิดระบาดแบบนี้มั่กๆ

ที่พักจะรองรับตั้งแต่ 2-6 คน โดยมีคนดูแลและบริการทุกอย่างให้

ในรูปแบบ Luxury Camp ดูแลตั้งแต่อาหารมื้อเช้า มื้อเย็น 

เซ็ต afternoon tea รวมถึงจัดโต๊ะดินเนอร์ให้ในโลเคชั่นที่ดีที่สุด

คุ้มมากกก

ราคาแพคเกจ 2 คน เริ่มต้นคนละ 2,950 บ.

ราคาแพคเกจ 4 คน เริ่มต้นคนละ 2,350 บ.

ราคาแพคเกจ 6 คน เริ่มต้นคนละ 1,750 บ.

*ราคานี้ใช้ได้ทุกวันยกเว้นวันเสาร์นะคะ

ราคานี้ว่าคุ้มแล้ว แต่ Jumtla campiness ใจดีไปอีก

แจกส่วนลดให้อีก 20% สำหรับทุกคนที่ตามเพจเลยย 

ข้อควรรู้ก่อนเข้าพัก 

– Jumtla campiness มีหลายสาขา หลายจังหวัด 

เช็คโลเคชั่นดีๆก่อนจองนะคะ ในรีวิวนี้คือที่ บ้านไร่เกษมสุข จ.นครปฐม 

– ที่พักเป็นแบบ glamping และด้วยความที่อยู่กลางธรรมชาติ 

จะมีแมลง ยุง และจิ้กจกอยู่บ้างนะคะ 

– ภายในห้องพักจะมีแอร์ ผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำส่วนตัว และอุปกรณ์อาบน้ำ 

แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้นะคะ 

– มีแค่กระโจม2 (standard tent) ที่ต้องใช้ห้องน้ำรวม 

– เช็คอิน 14.00 น. เช็คเอ้าท์ 11.00 น.

– ไม่เหมาะกับกลุ่มที่ต้องการปาร์ตี้และใช้เสียงดัง เพราะแต่ละห้องพัก

อยู่ใกล้กันมาก และมีบ้านคนอยู่ด้วย 

– แนะนำให้พกปลั๊กสามตรามาเผื่อค่ะ เพราะมีปลั๊กน้อยมาก 

อาจะไม่เพียงพอถ้ามากันหลายคน

ด้านนอกของกระโจมเราเองง

อยากดูข้างในก็รีบอ่านต่อเลยจ้ะ

มีโซนให้นั่งชมวิวแม่น้ำท่าจีนด้วย

ขับรถจากกรุงเทพแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงแล้ววว 

(ที่นี่จะใช้ชื่อว่า บ้านไร่เกษมสุขนะคะ แต่ก็อยู่ในเครือ

ของ jumtla campiness เหมือนกัน) ลานจอดรถที่นี่จอดได้

ประมาณ 4-5 คัน ซึ่งก็เพียงพอเพราะเค้ามีห้องพักแค่ 3 ห้อง

พอผ่านรั้วไม้เข้ามาแล้วจะเจอส่วนกลางเอาไว้รับรองแขก

มีความโฮมมี่ๆ มาก ทำการเช็คอินอะไรเรียบร้อย พี่พนักงาน

ก็ยก welcome drink มาให้ทันที

ส่วนกลางของที่นี่กว้างเลยแหละ เริ่มตั้งแต่หน้ารั้วไม้นี้ 

ไปจนถึงบริเวณของหน้าห้องพักแต่ละห้องด้วย

ตกแต่งได้น่ารัก และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้

อ้อ จะมีส่วนกลางที่เอาไว้สำหรับกินมื้อเย็นด้วย 

จะอยู่ด้านหลังของเคาท์เตอร์ที่ไว้รับแขกในรูปเมื่อกี้แหละ

เขยิบเข้ามาข้างในอีกนิด ก็จะเจอกับห้องพักทั้ง 3 แบบของที่นี่ค่ะ

ด้านหน้าของทุกห้องจะเป็นสวนแบบนี้เลย

หลังแรกคือ Greenhouse (Luxury Cabin Camp) 

เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำ หลังนี้พักได้ 2-4 คนนะคะ

วันอาทิตย์-พฤหัสราคา 1,750 บ./คน วันศุกร์-เสาร์และนักขัตฤกษ์

ราคา 1,950 บ./คน รวมอาหารเช้า – เย็น 

หลังถัดมาเป็น กระโจม 2 (Standard Tent) 

กระโจมไซส์กลางติดแอร์ พักได้ 2 คน(เสริมเตียงไม่ได้ค่ะ)

ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องใช้ห้องน้ำรวมที่อยู่ห่างไป 40 เมตรค่ะ

วันอาทิตย์-พฤหัสราคา 1,250 บ./คน วันศุกร์-เสาร์และ

นักขัตฤกษ์ราคา 1,450 บ./คน รวมอาหารเช้า – เย็น 

ที่นอนเสริมราคาจะลดไป 200 บ.จากราคาเต็ม

หรือถ้ามาเที่ยวคนเดียวก็จะมีราคาเหมากระโจมด้วยค่ะ

กระโจม1 (River Villa) ราคา 2,900 บ.

Greenhouse ราคา 2,900 บ. และ กระโจม 2 (Standard tent)

ราคา 1,900 บ. ส่วนห้องสุดท้ายคือห้องของปิงเอง ขอรีวิวเน้นๆในรูปต่อไปนะคะ

ห้องที่เราพักคือ กระโจม 1 (River Villa) กระโจมติดแอร์ไซส์ใหญ่ 

จุคนได้ 2-4 คน มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำส่วนตัว พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ

และหลังนี้อยู่ริมน้ำเลยค่ะ ได้วิวแม่น้ำเต็มๆ 

วันอาทิตย์-พฤหัสราคา 1,850 บ./คน วันศุกร์-เสาร์และ

นักขัตฤกษ์ราคา 2,100 บ./คน รวมอาหารเช้า – เย็น

เดินอ้อมกำแพงไม้ไผ่เข้ามาก็เจอแบบนี้เลย

กระโจมของเราเป็นหลังเดียวที่หันหน้าออกไปทางแม่น้ำ

ทำให้เห็นวิวแม่น้ำแบบ 100% ด้านในของกระโจมกว้างมาก

เข้าไปแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย ขนาดที่ว่าใส่ทั้งฟูกใหญ่และฟูกเสริม

ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้นั่งเล่นอีก

เตียงสีขาวคลีนๆ นุ่มน่านอนสุด

มุมนั่งเล่นเล็กๆในกระโจม 

เฟอร์นิเจอร์ในห้องจะเป็นงานไม้

งานหวายสานซะส่วนใหญ่ คุมโทนดีมากก

ตกแต่งแบบเน้นสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก 

ด้านนอกกระโจมจะปูด้วยหญ้าเทียมตลอดแนวเลย

เวลาเดินเท้าเปล่ายิ่งให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติไปอีก

และก็มีโซนนี้ไว้นั่งดูวิวแม่น้ำอีกด้วยล่ะ

ห้องน้ำจะเป็นกึ่ง outdoor เล็กๆ มีสบู่ แชมพูให้ครบ 

รึใครอยากแช่อ่างท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็ย่อมได้

ปล.ห้องน้ำทุกห้องไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ

ไปทัวร์หลังอื่นกันบ้างดีกว่า

หลังในรูปนี้คือ Greenhouse (Luxury Cabin Camp)

บ้านไม้ 2 ชั้นขนาดกลาง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ให้ความร่มรื่นได้ดีมาก

และหลังคาแบบใสๆนี้ก็ทำให้แสงเข้าได้เต็มๆ จะถ่ายรูปจากมุมไหนก็น่ารักไปหมด

ราคาในแต่ละวันจะไม่เท่ากัน ตามนี้เลยค่ะ

วันอาทิตย์-พฤหัสราคา 1,750 บ./คน วันศุกร์-เสาร์และนักขัตฤกษ์ราคา 1,950 บ./คน

มุมนั่งเล่นหน้าบ้าน สุด cute

ด้านในมีความคุมโทนอีกแล้วว

เน้นใช้สีน้ำตาลจากไม้และอิฐ 

แทรกด้วยสีเขียวจากต้นไม้ 

ลงตัวมากอะ 

หันขวามาก็จะเจอกับห้องน้ำที่กว้างมากอีกเช่นกัน

ได้อาบน้ำในที่แบบนี้ ไม่ฟินยังไงไหวว

บันไดขึ้นห้องนอนมีความสูงชันเล็กน้อย ระวังกันด้วยล่ะ

ถ้าใครลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อยก็จะเหนื่อยเดินขึ้นเดินลงนิดนึงนะคะ

ในห้องนอนก็คือน่ารักไปหมดเลย

ทั้งการตกแต่งและโทนสีที่ใช้ 

เหมือนหลุดมาอยู่ในนิทานวัยเด็ก

หลังถัดมาจะเป็น กระโจม 2 (Standard Tent)

กระโจมนี้เล็กกว่าของปิงนิดนึงค่ะ พักได้ 2 คน

เสริมเตียงไม่ได้ แล้วก็หลังนี้จะไม่มีห้องน้ำส่วนตัวนะคะ

ต้องเดินไปใช้ห้องน้ำรวมค่า 

จากหน้ากระโจม 2 มองออกมาก็เจอวิวแม่น้ำเหมือนกัน

บรรยากาศในที่พักมีความใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ

มองทางไหนก็จะเจอสีเขียวของต้นไม้ 

ป้ะ ไปดูมุมอื่นๆกันบ้าง 

ที่พักติดแม่น้ำมันก็จะดีแบบนี้แหละแกรร 

เดินย้อนกลับมาหน่อยก็จะเจอโซนนี้

นั่นคือล็อบบี้ที่เราเข้ามาเจอเป็นอย่างแรกค่ะ

จะเห็นว่ามีโต๊ะกินข้าวอยู่ด้วย นั่นสำหรับ

มื้อเช้าที่เราจะมากินกันตรงนี้ค่ะ

ช่วงเย็นๆพระอาทิตย์ใกล้จะตก แดดไม่แรงเกินไป 

ก็มานอนชิลล์ที่เปลนี้ได้เลย

มุมนั่งเล่นเค้าเยอะจริงๆนะที่นี่

ด้านหลังของล๊อบบี้จะมีทางเดินทะลุมาค่ะ

ออกมาก็จะเจอลานกว้างแบบนี้เลย

เป็นที่สำหรับทานมื้อเย็นของเราวันนี้ 

มื้อเย็นจะเริ่มตอนเวลา 17.30 น. ค่ะ

ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปเล่นกันไปก่อน

ริมบ่อน้ำมีนกกระยางอยู่ด้วย

ธรรมชาติแค่ไหนถามใจดูวว

รอไม่นานอาหารก็มาเต็มโต๊ะ แค่เห็นก็ฟินแล้วว

ทุกเมนูจะเป็นอาหารไทย มีทั้งหมด 5 อย่าง

(เมนูจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในวันนั้นๆ แต่มีกุ้งเผาในทุกวันค่า) 

เริ่มที่กุ้งเผาครึ่งกิโล ตัวเบิ้มๆทั้งนั้นเลยย

เนื้ออย่างแน่น และน้ำจิ้มซีฟู้ดอย่างเด็ด

แล้วก็จะมีเมนูแกง ผัด ทอด อย่างละ 1

ที่เราได้วันนี้จะมี ผัดผักบุ้ง ปีกไก่ทอด แกงส้มกุ้ง แล้วก็น้ำพริกกะปิ

ทุกจานรสชาติกำลังดีเลย ไม่เผ็ดเกิน ใครกินเผ็ดไม่เก่งก็กินได้ค่ะ 

เครื่องดื่มเป็นน้ำกระเจี๊ยบและอัญชัญมะนาว

ทุกอย่างเติมได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม (ยกเว้นกุ้งเผานะ)

ช่วง 6 โมงเย็นแบบนี้แดดลงสวยมากเลย 

วิวทุ่งหญ้าแบบ 180 องศาไปเลย

ปล.พอตกเย็นแล้วจะมีแมลงวันและยุงนะคะ 

แต่ที่พักเค้ามียากันยุงแล้วก็เปิดพัดลมจ่อให้ เลยช่วยได้ระดับนึงค่ะ

ในมื้อเช้านั้นจะไม่มีเมนูตายตัว ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในแต่ละช่วงค่ะ

วันที่เราไปได้เป็นข้าวมันไก่แหละ แล้วก็ขนมไทย 1 ชุด

ชอบตรงที่เค้าจัดมาให้ทั้งไก่แบบมีหนัง และส่วนอกไก่อะ

ถูกใจปิงมากเพราะไม่กินหนัง5555 ส่วนขนมหวานจะมี

วุ้นมะพร้าวที่ทางที่พักทำเอง ขนมตาล และ ขนมต้มค่ะ

ไก่แน่นๆไปเลยย

ส่งท้ายกันไปด้วยแสงยามเย็นรูปนี้ 

ทริปนี้เป็นการมา glamping ที่ใกล้ชิดธรรมชาติสมใจอยาก

ได้ทั้งความเป็นส่วนตัว ได้นอนฟังเสียงธรรมชาติใกล้ๆแบบนี้อีก

รู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียดได้เยอะ และด้วยความที่มีห้องจำนวนน้อย

ทำให้พี่พนักงานดูแลลูกค้าทุกคนได้อย่างทั่วถึงและใส่ใจสุดๆ

ใครอยากลองมาเปลี่ยนบรรยากาศ แนะนำเลย บ้านไร่เกษมสุข 

ในเครือของ Jumtla campiness ขับรถจากกรุงเทพชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้วค่ะ 

ก่อนจบรีวิว ปิงขอฝากช่องทางการติดตามปิงไว้ด้วยนะคะ 

FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/

IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/

YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere

Website : https://blissoutthere.com/

ตอนนี้มี LINE OA แล้วนะ อย่าลืมมาติดตามกันนะ

Line : https://lin.ee/3R4lVCCv 

พร้อมดูคอนเท้นต์ดีๆ อีกมากมาย เข้า LINE กดปุ่ม 3 Timeline เลย 

Comments

comments