10 เหตุผลที่ควรไล่ตาม ‘ความฝัน’ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
‘ความฝัน’ ในที่นี้ไม่ใช่ฝันกลางวันหรือฝันกลางคืน แต่เป็นความฝันว่าเราอยากจะทำอะไร
อยากมีชีวิตแบบไหน และ อยากอยู่เพื่ออะไร เรียกอีกอย่างว่า ‘ความหมายของการมีชีวิตอยู่’
‘ชีวิตที่ไม่มีความฝัน’ ก็เหมือน ‘ชีวิตที่ไม่มีความหมาย’
‘ความฝัน’ ทำให้เรารู้สึกมีชีวิต ทำให้เรารู้สึกว่าวันนี้เราต้องทำอะไรสักอย่าง
เพื่อให้เราเข้าใกล้ความฝันของเรามากขึ้น ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
ทุกคนมี ‘ความฝัน’ ได้ ไม่จำกัดขนาด ไม่จำกัดรูปแบบ
เช่น ฝันอยากมีเงินร้อยล้านพันล้าน ฝันอยากอยู่บนจุดสุงสุดของสายอาชีพใดสายอาชีพหนึ่ง
ฝันอยากไปเที่ยวรอบโลก ฝันอยากเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบายไปตลอดชีวิต…
แต่ก่อนที่ ‘ความฝัน’ จะกลายเป็น ‘ความจริง’ มันต้องถูกเปลี่ยนให้เป็น ‘เป้าหมาย’
‘เป้าหมาย’ เกิดจาก ‘ความฝัน’ ที่เป็นระบบ
ผ่านการเรียงลำดับขั้นตอนและความสำคัญ
โดยคำนึงถึงศักยภาพของเราและปัจจัยต่างๆรอบตัวเรา
เมื่อมี ‘เป้าหมาย’ เราก็ต้องหาวิธีที่ทำให้บรรลุเป้าหมาย
แล้วหมั่นทำสิ่งนั้นทุกวัน เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ พัฒนาเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นๆ
และไม่หยุดจนกว่า ‘ความฝันนั้นจะกลายเป็นความจริง’
ยกตัวอย่าง เราเป็นคนที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
พ่อแม่เราชอบเที่ยว พาเราเที่ยวทั้งในและนอกประเทศตั้งแต่เด็ก
พอเริ่มโต เราก็แบ่งเงินที่ได้จากพ่อแม่แต่ละเดือนไปเที่ยว
แม่เรามักจะพูดว่าในลูกสามคนเราเนี่ยแหละใช้เงินเยอะที่สุดเพราะเอาแต่เที่ยว
ความฝันของเราเลยเป็นการทำให้พ่อแม่เห็นว่าเราหาเงินจากการไปเที่ยวของเราได้
และพาพวกท่านไปเที่ยวที่ไกลๆสบายๆด้วยเงินที่เราหา
ตอนนี้ความฝันของเราก็ยังไม่เป็นจริงหรอก
เรายังอยู่ระหว่างทาง และ กำลังทำเพื่อมันทุกๆวัน
สิ่งที่เราได้จากการ ‘ไล่ตามความฝัน’ ก็คือ ‘ความสุข’
สุขที่ได้ตื่นมาทำอะไรที่เรารัก แล้วรู้ว่าพรุ่งนี้เราจะทำอะไรต่อ
สุขที่ได้เห็นตัวเองเข้าใกล้ ‘ความฝัน’ ทีละนิดๆ
ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและคนรอบตัวตลอดทาง
เราเขียนบทความนี้เพื่อเป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจ
ให้กับคนที่มีความฝันทุกคน ออกมาทำตามความฝันของตัวเอง
ด้วย ‘เหตุผล 10 ข้อ’ ต่อไปนี้..
1. หลายปีข้างหน้า เราจะนั่งเสียดายที่เราไม่ได้ทำมัน และ ยิ่งเราปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไร เราจะยิ่งถามตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่ทำมันให้เร็วกว่านี้
2. สิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดคือความฝันและความชอบของเรา ไม่ใช่ความเห็นหรือความต้องการของผู้อื่น
3. ความฝันไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นความจริงได้ นอกจากเราจะเปลี่ยนมัน
4. ทุกคนมีอิสระที่จะฝันและทำ แต่ถ้าคุณมีข้อจำกัดในชีวิต ก็จงท้าทายข้อจำกัดเหล่านั้น
5. เราจะตระหนักในศักยภาพของตัวเองและได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้
6. เมื่อได้ทำในสิ่งที่หลงใหล เราจะมีความสุข ความกระตือรือร้น ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า และ ไปได้ไกลกว่า
7. เราจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นในการทำตามความฝันของเขา (ถึงจะไม่รู้จักกันเลยก็ตาม) และนั่นทำให้โลกของเราน่าอยู่
8. ถ้าเราไม่สู้เพื่อความฝันของเรา จะมีคนมาจ้างเราให้ทำเพื่อความฝันของเขา
9. ต่อให้เราทำจนสุดความสามารถแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะไม่เสียใจเท่ามีความฝันแต่ไม่ได้ลงมือทำ
10. เส้นทางความฝันมันอาจไม่ได้เหมือนกับที่เราวางไว้ แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราน่าจดจำ
ไม่ว่า ‘ความฝัน’ ของคุณจะคืออะไร
ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องไล่ตามมัน
ให้คุณรู้ไว้ว่ามีคนอีกมากที่กำลังตามฝัน
แต่คนที่ไม่หยุดเท่านั้นที่ทำให้ฝันเป็นจริง…
บทความนี้เขียนจากประสบการณ์และมุมมองส่วนตัว
ไม่มีเจตนาจะเปรียบเทียบหรือนิยามความฝันของคนอื่น
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนค่ะ
ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://www.facebook.com/BlissOutThere
และ http://www.blissoutthere.com/ ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนกันน้า จะทำออกมาเรื่อยๆเลย
: )