พูดถึง ‘ ระยอง ‘ เพื่อนๆอาจจะนึกถึง
เขาแหลมหญ้า ทุ่งโปร่งทอง ไม่ก็ เกาะเสม็ด
แต่ที่จริงแล้ว จังหวัดนี้ ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกเพียบ
อย่างทริปนี้ ปิงได้ไปเดินเล่นที่ถนนยมจินดา
ถนนสายแรกของเมืองระยอง ได้ไปดำน้ำใสๆ
ดูปลาสวยๆที่เกาะทะลุ ได้ไปพักผ่อนที่โรงแรมเก๋ๆ
อย่าง Centara Q ปิดท้ายด้วยการเดินช้อปปิ้ง
ที่ตลาดเกาะกลอย ! ข้อมูลทุกอย่างรวมอยู่ในรีวิวนี้
ถ้าพร้อมแล้ว.. ไปเที่ยวระยองพร้อมๆกันเลยยยย
*** การเดินทาง ***
ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถตู้ส่วนตัว เนื่องจากไปเป็นกลุ่มค่ะ
จากกทม.ไประยอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
นั่งเล่น นอนเล่นไปในรถ แป๊ปเดียวก็มาถึงสถานที่แรก
ของทริปนี้ นั่นก็คืออออออ ‘ ถนนยมจินดา ‘ วู้ฮู้วววววว !
‘ ถนนยมจินดา ‘ เป็นถนนสายแรกในตัวเมืองระยอง
และเป็นถนนที่มีความสำคัญเรื่องการค้าขายในสมัยก่อน
ปัจจุบันกลายเป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้า
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง บ้านพักระยอง และ
ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆด้วย
มาถ่ายรูปกับย่านชุมชนเก่า ก็ฮิปสเตอร์ไปอีกแบบค่ะ
‘ พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง ‘ ตั้งอยู่บนถนนยมจินดาค่ะ
พิพิธภัณฑ์นี้เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มชมรมฟื้นฟูอนุรักษ์
เมืองเก่าระยอง ที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ความเป็นมา
และประวัติศาสตร์ของเมืองระยอง ด้านในก็จะมีข้าวของ
เครื่องใช้ในสมัยก่อน รูปภาพเหตุการณ์สำคัญ
และของสะสมของตระกูล / บุคคล ในเมืองระยอง
ที่นี่เปิดทุกวัน 9.00 – 18.00 น. ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ : )
เดินสำรวจ ‘ ถนนยมจินดา ‘ กันมาสักพักแล้ว
ท้องของพวกเราก็เริ่มส่งเสียง จ๊อกจ๊อก55555
มื้อเที่ยงวันนี้ พวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารชื่อดัง
‘ ราย็อง ‘ ค่ะ ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น
อาคารไม้เก่า ที่ดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ ด้านในตกแต่ง
ด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกเก่า แบบคลาสสิค
ส่วนที่สอง เขยิบเข้ามาในซอยเดียวกัน เป็นอาคารสีเทา
ด้านในตกแต่งแบบง่ายๆ สะอาดตา เหมือนอยู่บ้านเพื่อน
เมนูแนะนำของร้านนี้ คือ ออร์เดิร์ฟเมี่ยงคำ
พิซซ่าแป้งโรตี ข้าวอบสับปะรด ลูกชิ้นปลาลวก ฯลฯ
เมนูอื่นๆก็อร่อยค่ะ มาโดนได้ทุกวันที่ถนนยมจินดา
เวลา 11.00 – 22.00 น. มาไม่ถูกโทร 0933200058
นี่เพจของร้าน https://www.facebook.com/raayong/
ออกจาก ‘ ราย็อง ‘ พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก
‘ Centara Q Rayong ‘ บมแหลมแม่พิมพ์
โรงแรมนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ( ห้องพัก 41 ห้อง )
แต่ออกแบบและจัดสรรพื้นที่ได้ดี มีส่วนกลางครบ
ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม สปา บาร์
ที่ชอบคือทุกห้องมีระเบียงหันหน้าออกทะเล
ไม่พูดมากละ เราไปดูแต่ละส่วน พร้อมๆกันเลย : D
‘ Centara Q Rayong ‘ มีห้องพัก 2 ประเภทค่ะ
คือ ซูพีเรียโอเชี่ยนเฟสซิ่ง และ ดีลักซ์โอเชี่ยนเฟสซิ่ง
ข้อแตกต่างของห้องทั้งสองประเภทคือ คือ ห้องดีลักซ์
จะมีขนาดใหญ่กว่า มีอ่างอาบน้ำ และ ใกล้หาดมากกว่า
( อยู่อาคารติดหาด ) รอบนี้ปิงพักห้องซูเพียเรีย
ขนาด 34 ตร.ม. เตียงเป็นเตียงคิงไซส์ มีระเบียงส่วนตัว
ราคาปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา ต้องเช็คกับทางเว็บไซต์
ของโรงแรม http://www.centarahotelsresorts.com/centara/crr/
แต่รับรองค่ะว่าคุ้มค่า ! ( ตอนเราไปประมาณ 3,000 บ. / ห้อง / คืน )
ห้องน้ำเชื่อมต่อกับห้องนอนเลย
ตอนแรกนึกว่าเราจะต้องเห็นรูมเมทเราฉี่
ที่ไหนได้ ประตูห้องน้ำเค้าเป็นแบบเลื่อน
สีขาวกลมกลืนกับผนัง ถ้าเปิดทิ้งไว้
ก็จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ <3
ส่วนตัว ชอบโรงแรมที่มีกระเป๋าผ้า
และรองเท้าแตะให้ใช้ขณะที่เข้าพัก
มันรู้สึกว่าเค้าใส่ใจเราขึ้นมาอีกขั้น
สำรวจห้องตัวเองเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปสำรวจ
ส่วนอื่นๆของโรงแรม เริ่มจาก ‘ Cense by SPA Cenvaree ‘
ซึ่งอยู่ในอาคารที่คั่นระหว่างอาคารห้องซูเพียเรียและ
อาคารห้องดีลักซ์ แต่ถ้าลงลิฟท์มันจะไม่ชิคอ่ะสิ ต้องลงบันได : p
และนี่คือทางเข้าสปา ( และห้องอาหารเช้า )
‘ Cense by SPA Cenvaree ‘ เป็นสปาในเครือ
ของ SPA Cenvaree ที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ
อย่างที่ Centara Q ก็จะมีให้เลือกทั้งนวดน้ำมัน
นวดแผนไทย ( เท้า / ตัว ) แพ็กเกจสำหรับคู่รัก ฯลฯ
ราคาปกติก็ดีงามอยู่แล้ว ช่วงไหนมีโปรยิ่งดีเข้าไปอีก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 038657378
หรือ อีเมล censecrr@chr.co.th
แต่ตอนนี้ ปิงขอตัวไปนวดก่อนนะ ^^
จากสปา เราก็เดินต่อไปที่อาคารหน้าหาดเลย
ขอส่งห้องดีลักซ์หน่อยซิ ! ห้องนี้มีขนาด 58 ตร.ม. ค่ะ
ระเบียงและห้องน้ำกว้างกว่าห้องซูพีเรีย
ในห้องน้ำมีทั้งฝักบัว และ อ่างอาบน้ำ
ตรงระเบียงมีโซฟาให้นั่งเล่นรับลม
มองลงไปก็เห็นสระว่ายน้ำและหาดเลย ดีดี๊
อีกหนึ่งมุมห้ามพลาดของโรงแรมนี้
คือบันไดจากอาคารหน้าหาดลงไปสระว่ายน้ำ
ที่ออกแบบได้เก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์มมากๆ
ใช้สีเทาและสีขาวเป็นหลัก ใครมาพักที่นี่
แล้วไม่ได้ถ่ายรูปมุมนี้ ถือว่ามาไม่ถึงนะ
ตัวอาคารหน้าหาด ดีไซน์ดีมากกกกก
สีขาวสะอาดตา มองเห็นทุกห้องชัดเจน
หวังว่าโอกาสหน้าจะได้มาพักห้องดีลักซ์ <3
ในที่สุดดดดดดดดด ! เราก็เดินมาถึงหาด5555
กว่าจะถึง แวะหลายจุดเหลือเกินนนนน
ด้วยความที่โปรแกรมวันนี้ยังไม่มีอะไรมาก
เน้นชิล เน้นพักผ่อน ก่อนมื้อเย็นพวกเราก็
นอนอาบแดด ถ่ายรูปกันตรงหาดนี่แหละ
ป.ล. ไม่เคยมาพักตรงแหลมแม่พิมพ์เลย
เพิ่งรู่ว่าทรายสะอาดและน้ำใสขนาดนี้
ปิดท้ายวันแรกด้วยมื้อเย็นที่ทางโรงแรมจัดให้
กรุ๊ปไพรเวทของเราาาา มีทั้งยำๆ กับข้าว และ
ผัดไทยเส้นแกลง ทีเด็ดของระยองที่เค้าบอกว่า
กวาดรางวัลอาหารมาหลายรางวัลแล้วววว
เห้ออออออออออออออออ ฟิน *O*
กินเสร็จ ออกมาเดินย่อย
จะว่าไป มุมนี้ตอนกลางคืนก็สวยนะ : )
วันแรก กินอิ่ม นอนหลับสบาย
วันที่สอง เราจะเริ่มของจริงกันแล้ววว !
โปรแกรมวันนี้คือตื่นมาทานมื้อเช้า
ลงเรือไปเที่ยวเกาะทะลุ ดำน้ำ ถ่ายรูป
นอนชิล ทานมื้อเที่ยง แล้วกลับมาชิลต่อ
ที่ที่พัก ก่อนที่จะจัดหนักจัดเต็มกับ
บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดบาบีคิว ไปค่ะ Go Go
จากท่าเรือไป ‘ เกาะทะลุ ‘ ใช้เวลาแค่ประมาณ 20 นาที ค่ะ
เกาะทะลุตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า
– หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ทำให้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
จากเจ้าหน้าที่อุทยาน ชื่อเกาะ ตั้งมาจากลักษณะเด่น
ของเกาะ ที่เป็นรู ทะลุได้ รอบเกาะน้ำใสมากๆๆๆๆ
มีฝูงปลา หลายชนิด สามารถดำน้ำตื้นดูได้ค่ะ
พวกเราใช้เวลาที่เกาะทะลุประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ
ดำน้ำดูปะการัง 2 จุด เดินเล่น ถ่ายรูป และ ทานมื้อเที่ยง
กลับถึงโรงแรม รู้สึกยังว่ายน้ำไม่สะใจ
ก็ตู้มมมม ! ลงสระได้เลยจ้าาาาาาาาาาา
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจมา one day trip ที่เกาะทะลุ
แบบเรา สามารถจองล่วงหน้ากับทางโรงแรมได้เลย
มีค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 บ. ราคานี้รวม รถรับ – ส่ง
ระหว่างที่พักกับท่าเรือ อาหารกลางวันแบบกล่อง และ
อุปกรณ์พื้นฐานในการดำน้ำตื้น ถือว่าไม่แพงเลยแหละ
หมดพลังก็เข้าห้อง อาบน้ำ นอนเปื่อย
ออกมาถ่ายรูปมุมที่เหลือในโรงแรม รอมื้อเย็น
ต้องบอกก่อนว่า ปกติทางโรงแรมจะจัด
‘ Saturday’s BBQ Buffet ‘ ริมทะเล ทุกวันเสาร์
แต่ถ้าวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็จะย้ายมาจัดภายใน
โรงแรม แต่ไลน์อาหาร ทุกอย่างคือดีงามเหมือนเดิม
อย่างวันที่เราไปฟ้าครึ้มๆ ก็ต้องย้ายเข้ามา indoor
กุ้ง หมึก ปู ตักเพิ่มได้เรื่อยๆ มีคนปิ้งให้ร้อนๆ
แถมสเต็กหมู สเต็กเนื้อ ซุ้มส้มตำ ซุ้มยำต่างๆ
ขนมจีนแกงเขียวหวาน บัวลอยไข่หวาน ฯลฯ
เป็นคืนที่ฟินที่สุดแล้วววววววว จ่าย 650 บ.
กินได้ไม่อั้นนนนนน แนะนำให้จองก่อนนะ
เพราะวันเสาร์ลูกค้าเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน !
เช้าวันที่สาม ได้เวลาบ๊ายบาย Centara Q
โรงแรงแรมบรรยากาศดีๆ บริการดี๊ดี ที่หวังว่า
จะได้เจอกันใหม่ :’) เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
พวกเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่ ‘ ตลาดเกาะกลอย ‘
ตลาดน้ำสี่ภาคของเมืองระยอง ที่นี่ไม่ได้มี
พ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายของ แต่ทำเป็น
สะพานไม้เชื่อมร้านค้าต่างๆ ให้นักท่องเที่ยว
ได้เดินเล่น ช้อปปิ้ง ชิมของอร่อยกันเพลินๆ
ด้านในมีทั้ง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เรือถีบ
และ มีจุดให้นักท่องเที่ยวให้อาหารปลาได้ด้วย
แต่ถ้ามองหาก๋วยเตี๋ยว แนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา
ที่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวน้ำใส น้ำตก ต้มยำ ในกะลามะพร้าว
น่ารักกกกก แถมอร่อยด้วยยย ตลาดนี้เปิด จ-พฤ
10.00-19.00 น. , ศ-อา 10.00-20.00 น. มีที่จอดรถ
จบแล้ว ทริปเที่ยวระยอง 3 วัน 2 คืน แบบเรียลๆ
มาระยองรอบนี้ได้รู้จักระยองขึ้นอีกเยอะ
ได้ไปสถานที่ที่ไม่เคยไปอย่างถนนยมจินดา เกาะทะลุ
และตลาดเกาะกลอย ใครว่างก็อย่าลืมมาตามรอย
ทริปนี้น้า มันดีจริงๆ เลิฟฟฟฟฟฟฟ <3
ติดตามรีวิวอื่นๆของปิงได้ที่ http://blissoutthere.com/
ทริปหน้าปิงจะไปเที่ยวที่ไหน ติดตามได้ในเพจ
https://www.facebook.com/BlissOutThere/
วันนี้ไปละ บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยย