เที่ยว Ishikawa ญี่ปุ่นแบบสโลว์ไลฟ์ ดูงานศิลปะ เล่นหิมะ ปะทะอากาศหนาว

เที่ยว Ishikawa ญี่ปุ่นแบบสโลว์ไลฟ์ ดูงานศิลปะ เล่นหิมะ ปะทะอากาศหนาว

เที่ยว Ishikawa ญี่ปุ่น แบบสโลว์ไลฟ์

ดูงานศิลปะ เล่นหิมะ ปะทะอากาศหนาว 

ทริปนี้เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมแล้วไปลุย

หิมะกันนน ต้นปีอย่างนี้โอกาสดีสุดๆ

ที่จะมาเที่ยวจังหวัดอิชิคาวะกันค่ะ 

จริงๆแล้วในจังหวัดนี้จะมีเมืองใหญ่ๆอย่าง

Kanazawa, Fukui แล้วก็หมู่บ้าน

มรดกโลกอย่าง Shirakawa-go ด้วย 

ซึ่งในโพสต์นี้เรารวบรวมพิกัดน่าไปมาไว้

รวมกันแล้ว เราไปมา 6 วัน 5 คืน ค่ะ

– หมู่บ้าน Shirakawa-go

– 21st Century Museum of Contemporary Art

– Kamu Kanazawa

– เมือง Kanazawa

– สวน Kenroku-en

– ผา Tojinbo 

– Fukui Prefectural Dinosaur Museum

การเดินทางทริปนี้ สำหรับคนที่มีแพลนเที่ยว

โตเกียวโอซาก้าอยู่แล้ว สามารถนั่งรถไฟมาลงที่

สถานี Kanazawa ได้เลยค่ะ สะดวกม๊ากกก 

อาจจะใช้เวลาหน่อย แต่บอกเลยว่าคุ้ม 

รายละเอียดของแต่ละสถานที่ เปิด-ปิดกี่โมง 

เราบอกไว้ให้หมดแล้วในแคปชั่นใต้รูปเลย

หมู่บ้าน Shirakawa-go

หมู่บ้านมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมา

สักครั้งนึงในชีวิตค่ะ ยิ่งช่วงปลายปีไปจน

ถึงต้นปี ที่นี่จะมีหิมะตก ทั้งหมู่บ้านและ

ลำธารจะกลายเป็นสีขาวทั้งหมด 

ที่นี่เป็นหมู่บ้านแบบเปิด ไม่มีค่าเข้าชม

ทุกคนสามารถเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปได้ทุกที่เลยน้า

สำหรับคนที่เดินทางจากสถานี Kanazawa

เค้ามีบัสตรงมาที่หมู่บ้านนี้เลย เพื่อนๆสามารถ

จองที่ป้ายรถบัสด้านหน้าสถานีรถไฟได้เลยน้า 

ที่นี่มีสะพานไม้โบราณค่ะ

เดินแล้วอาจจะมีโยกๆนิดหน่อย

แต่วิวสวยมาก Stunning ฝุดๆ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BK1B7v4kbciEBaKM7

มุมไฮท์ไลท์ของที่นี่เลย 

ยิ่งช่วงเย็นแสงพระอาทิตย์สาด

มาสะท้อนหิมะยิ่งสวยยย

ช่วงอากาศหนาว น้ำในแม่น้ำ 

ก็จะแห้งๆหน่อย แต่ก็สวยไปอีกแบบ

21st Century Museum of Contemporary Art

อาร์ตมิวเซียมที่ได้รับการกล่าวขานว่า

ดีที่สุดในเมืองคานะซาวะ อันนี้เป็นบริเวณ

นอกตัวอาคารน้า เสียดายมากๆ เพราะ

ช่วงที่เราไปเป็นช่วงหลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 

พอดี ทางมิวเซียมก็เลยปิด เพื่อตรวจสอบ

ความปลอดภัย ก็เลยอดเข้าไปดูข้างในเลย

แต่เอาจริงด้านนอกยังเก๋ขนาดนี้ 

ข้างในต้องเริ่ดมากแน่ๆ สัญญาว่าจะมาซ้ำแน่นอนน

งานศิลปะของที่นี่ส่วนมากจะเป็น

งาน Contemporary Art 

ตามชื่อเลย เดินถ่ายรูปเล่นได้ทุกจุด

ที่นี่ค่าเข้าราคา 450 เยนต่อคนนะคะ 

จะซื้อที่หน้าทางเข้าเลยหรือจะจองผ่านทางออนไลน์

ก่อนก็ได้ที่ลิงก์ 

https://www.kanazawa21.jp/data_list.php?g=81&d=223

เวลาเปิด/ปิด : 10.00-18.00 น. ปิดวันจันทร์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/326FhqV9joWfjazS9

ตรงกันข้ามมิวเซียมจะมีศาลเจ้าเล็กๆ

ชื่อ Ishiura Shrine มีเสาโทริอิแดง 

เรียงรายอยู่ พร้อมกับป้ายหมาน้อยบอกทาง

ใครมาเที่ยวมิวเซียมสามารถแวะไปมูกันได้

Kamu Kanazawa

อีกหนึ่งมิวเซียมที่น่ามาเดินเล่น ดูงานศิลปะ

สุดๆก็คือที่นี่ค่ะ จริงๆแล้ว Kamu Art Museum

ไม่ได้มีงานจัดแสดงอยู่แค่ที่เดียวนะ แต่จุดนี้

จะเป็นจุดตั้งต้นค่ะ ถ้าใครนึกภาพไม่ออก

ลองคิดถึงงาน Bangkok Design Week 

ก็จะเป็นอีเว้นท์คล้ายๆกันที่กระจายอยู่เต็มเมือง

แต่ความดีงามก็คือ งานที่ Kamu เค้านำมาจัด

ทุกคนสามารถดูได้ทั้งปีเลยยยย แต่บางจุดอาจจะ

มีวันที่ปิดน้า หลังจากรับแผนที่จากจุดแรกนี้แล้ว 

ลองเช็ครายละเอียดของที่อื่นๆ จากในแมพกันอีกทีเด้อ 

เกือบทุกที่ที่คามุเค้าจัดงาน ที่ตั้งจะอยู่

ห่างกันไม่มาก สามารถเดินถึงได้เลย

นอกจากจุดนี้ก็จะมีงาน Animation 

ล้อเลียนการ์ตูนเรื่องหมีพูห์ค่ะ เพลินดีๆน้า

ที่นี่ค่าเข้าชมจะมี 3 ราคา ต่างกันตรงที่จะมีแบบ

เข้าชมได้ 1 / 2 / 3 วัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 

2,000-3,000 เยนต่อคนนะฮับบบ จองออนไลน์ได้เลยที่

https://artsticker.app/events/1261

เวลาเปิด/ปิด : 11.00-18.00 น. ปิดวันจันทร์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mzk5qtY3iwo2M5xF8

บันไดวนจำลองภาพและเสียงนกร้อง 

ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ในรังนกเลยยย

ตรงนี้สาย Street Photo ต้องชอบแน่ๆเลย

เพราะเค้าจัดงานภาพถ่ายขาวดำ ตามเสาไฟฟ้า

ตลอดทางเดินในซอยเล็กๆ เท่มากกกก 

ส่วนอีกห้องเป็นจุดที่เราชอบที่สุดค่ะ

เพราะเค้าใช้ภาพถ่ายของช่างภาพญี่ปุ่นชื่อดัง

Daido Moriyama มาร่วมจัดแสดง

เก๋มากกก เลิฟ 

ระหว่างเดินเล่นในเมืองคานาซาวะ

เราก็ไปเจอกับศาลเจ้าชื่อ Oyama Shrine

ซุ้มประตูคล้ายโบสถ์คริสต์มากๆ 

แล้วคนก็มาไหว้ ขอพรปีใหม่เยอะมากเช่นกัน

ร้านซูชิสายพานที่เดินเจอโดยบังเอิญค่ะ

ร้านนี้ชื่อ Morimori Sushi 

อยู่ใกล้ๆกับตลาดปลา ก็เลยลองทานดู

เธออออ ปลาสดมากกก หวานแบบแทบไม่ต้อง

จิ้มโชยุเลย แถมชิ้นใหญ่แบบเต็มคำสุดๆ 

หรือใครชอบทานอูนิ ที่นี่ก็มีนะ หวานมันเว่อร์

อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดสำหรับเมืองคานาซาวะ

ก็คือ ข้าวแกงกะหรี่คานาซาวะสไตล์ ค่าา 

น้ำราดเค้าจะออกสีเข้มๆหน่อย มีความเจ้มจ้น

แบบบอกไม่ถูก แต่รสชาติอร่อยเลย ออกเปรี้ยวๆนิดนึง

ก็คือเดินทางไหน เกือบทุกร้านก็จะเจอเมนูนี้ตลอด 

ปราสาทคานาซาวะค่ะ ที่จริงแล้วปราสาท

เค้าใหญ่แล้วก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากๆ

แต่เพราะผลกระทบของแผ่นดินไหว ..

นั่นแหละค่ะ เราเลยอดเข้าอีกตามเคย 

สวน Kenroku-en

เดินข้ามถนนจากหน้าปราสาทมาอีกฝั่ง

ก็จะเจอสวนเคนโรคุเอน เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่

มาก เรียกได้ว่ากินพื้นที่กลางเมืองคานาซาวะ 

ไปเยอะเลย ซึ่งเป็นที่นิยมมากทั้งในหมู่คนญี่ปุ่นเอง

แล้วก็นักท่องเที่ยวด้วย ข้างในสวนร่มรื่นย์มากกก

ต้นไม้เยอะ สระน้ำเยอะ มีน้องปลาเป็น 

ร้อยๆพันๆตัวเลย ไม่นึกว่ากลางเมืองจะสามารถ

สัมผัสธรรมชาติได้มากขนาดนี้

สระน้ำกลางสวนที่ใหญ่ที่สุด

ที่เห็นไม้สามเหลี่ยมนั่นคือ

นวัตกรรมเก่าแก่ของที่นี่ ที่ชาวบ้าน

สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันต้นไม้จาก

หิมะหนักๆนั่นเองงง 

ที่สวนนี้จะมีค่าเข้า 320 เยนต่อคนนะคะ

ซื้อตั๋วได้บริเวณทางเข้า และรับเฉพาะเงินสดเท่านั้นค้าบบ 

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oiuhAbvCPBjuP76FA

สถานีต่อไปที่เราจะออกเดินทางก็คือ

สถานี Fukui ค่ะ แต่ก่อนจะขึ้นรถไฟ

ก็ต้องแวะทานราเมงร้านดังอย่าง

Hachiban Ramen ที่ทุกคน 

น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วสักหน่อยยย

ถ้าถามว่าทำไมต้องฮะจิบังล่ะก็ เพราะว่า

ที่อิชิคาวะ เป็นจังหวัดต้นกำเนิดของร้านฮะจิบังค่ะ 

รสชาติต้นตำหรับแท้ๆเลยยย 

ผา Tojinbo 

หน้าผาหินสูงยอดฮิตในเมือง Fukui

ที่ผานี้มีเรื่องเล่าเยอะมากเลย

หลักๆแล้วตามเนื้อเรื่องที่คนญี่ปุ่นรู้คือ

ที่ผานี้จะเป็นสถานที่ที่คนมักจะมาบอกลาโลกนี้กันค่ะ 

แต่ที่น่าแปลกคือ ทั้งตัวหน้าผาเอง และน้ำทะเล

สวยมากๆ แถมนักท่องเที่ยวก็เยอะ 

เป็นสถานที่เที่ยวที่ทั้งสวยแล้วก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน 

ที่ผานี้เราสามารถเดินหรือปีนป่ายตามโขดหินได้นะคะ

แต่ที่สำคัญคือต้องระวังลื่นกันให้มากๆเลยน้า

เพราะผาเค้าสูง แถมคลื่นก็แรงใช้ได้เลยยย 

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cC445AEUagLT7EyY7

แถวบริเวณหน้าผาจะมีร้านอาหาร

เรียงกันเยอะมาก ให้ฟีลเหมือนตลาดอาหาร

ทะเลค่ะ ส่วนเมนูดังของที่นี่ก็คือ

Seiko-don เป็นเมนูที่รวมส่วนที่อร่อย 

ของน้องปูประจำถิ่นที่นี่มารวมกันไว้ในจานเดียว

ทั้งไข่ปู เนื้อปู กรรเชียงปู บอกเลยว่าฟินนน

Fukui Prefectural Dinosaur Museum

ถ้าพูดถึงเมืองฟุคิอิล่ะก็ คนที่นี่จะนึกถึง

ไดโนเสาร์กันแหละ เพราะนอกจากสถานีรถไฟ Fukui

จะถูกตกแต่งเต็มไปด้วยรูปปั้นไดโนเสาร์แล้ว

ที่นี่ยังมีมิวเซียมใหญ่ประจำเมือง ที่รวบรวม

ฟอสซิล และเรื่องราวของไดโนเสาร์ไว้ 

เนื่องจากฟุคุอิเป็นเมืองที่ขุดเจอซากกระดูกของ

เจ้าไดโนเยอะที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

ภายในอาคารจะมีฟอสซิลไดโนเสาร์ที่

นำมาต่อกันจำลองให้เห็นทั้งตัว

เยอะมาก เหมาะกับการพาน้องๆหนูๆ

มาเรียนรู้ มาเล่นกันสุดๆ 

ค่าเข้าที่นี่ 1,000 เยนน้า เพื่อความรวดเร็ว

กดจองล่วงหน้าได้เลยที่ 

https://www.dinosaur.pref.fukui.jp/guide/ticket.html

เวลาเปิด/ปิด : 09.00-17.00 น. ปิดวันพุธ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TJgpepey8i3CKn6L8

น้องคนนี้คอยาวมากกกกก 

ของจริงคือสูงประมาณตึก 2-3 ชั้นได้

ข้างนอกอาคารก็มีน้องคอยต้อนรับน้า

ขยันขันแข็งทนความหนาวกันเกิ๊นนนน 

จบไปแล้วกับทริปต่อนยอนในเมืองอิชิคาวะ

คิดว่าน่าจะถูกใจสายเสพย์งานศิลป์กันน้า 

การเดินทางอาจจะใช้เวลาเยอะหน่อย

แต่ความสวย และไวบ์ของเมือง ดีคุ้มค่ามากนะเอ้ออ

ไม่อยากพลาดรีวิวญี่ปุ่น อย่าลืมกดติดตาม

????? ??? ????? ให้ครบทุกช่องทางน้า 

FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/ 

TikTok : https://www.tiktok.com/@blissoutthere 

YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere 

Website : https://blissoutthere.com/ 


ทริปหน้าจะไปเที่ยวไหน รออ่านได้เล้ยยย

Comments

comments