เที่ยวกาญจนบุรี แบบจุใจ 3 วัน 2 คืน
ขับรถแป๊ปๆ ก็ได้ไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแล้ว
ไป 2 คืน เราจะรีวิวที่พักเดียวได้ยังไงกัน
ทริปนี้ขอ 2 แนวไปเล้ย ทั้งนอนใกล้ชิด
ติดริมแม่น้ำแควอย่าง กอดอุ่น ริเวอร์แคว รีสอร์ท
และนอนบ้านกลางป่าสุด private ที่ เฌอโคว at หม่องกะลา
แต่ละที่มีอะไรพิเศษยังไงบ้าง ไปอ่านกันเต็มๆได้ในรีวิวนี้เลยนะ
กระซิบเลยว่า 10 คะแนนเต็มไม่หัก
ที่สำคัญราคาที่พักเริ่มต้นคืนละไม่ถึง 1,000 บ. / คน
รวมๆแล้ว ค่าใช้จ่ายทริป 3 วันนี้อยู่ที่ประมาณ 2,500 บ. / คน
(ใครอยาก save cost ก็เลือกเมนู,ห้องพักที่ถูกกว่าเราได้จ้า)
ชาว café hopper ก็ไม่ต้องน้อยใจ
เพราะเรารวมมาให้ถึง 3 ร้าน 3 สไตล์ด้วยกัน
ไม่ว่าจะแนวมินิมอล สายธรรมชาติ หรือจะวินเทจก็มี
ถ้าเพื่อนๆอ่านรีวิวนี้จบ รับรองว่าจะอยากลุกไปแพ็คกระเป๋าซะตอนนี้เลย
ชาร์จแบตกล้องให้พร้อมนะคะ
แล้วไปตามรอยถ่ายรูปเช็คอินในครบทุกพิกัดในรีวิวนี้เลยนะ
ใครอยากนอนป่าแบบชิลล์ๆ ไม่ต้องแบกเต้นท์ไปเอง
แพ็คกระเป๋าตามเรามา ทริปนี้จะพาไปนอน
2 ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติ
กอดอุ่น ริเวอร์แคว รีสอร์ท และเฌอโคว at หม่องกะลา
ที่เห็นในรูปนี้นั่นเอง มานอนสูดกลิ่นธรรมชาติให้เต็มปอดกันเลย!
ขับรถจากกรุงเทพมาเหนื่อยๆ ก่อนจะเข้าที่พัก
ทางเราขอแวะคาเฟ่จิบน้ำเย็น
คาเฟ่แรกในทริปนี้ของเราก็คืออออ
CHERN Cafe and Eatery – เชิญคาเฟ่แอนด์อีทเทอรี่
คาเฟ่ที่จะทำให้คุณรู้สึกเห
ร้านเปิดให้บริการทุกวันนะค
– เวลา : 9.30 – 19.00 น.
– พิกัดร้าน : ตำบลบ้านใหม่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
– เบอร์ติดต่อ : 080-249-9655, 062-514-6596
– พิกัด Google map : https://bit.ly/2X0xgh1
พื้นที่ส่วนใหญ่ของร้านจะเป็น outdoor
เพื่อให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำธร
เห็นความเขียวล้วนนั่นมั้ยทุกคน ดีต่อใจเนอะ ><
อย่างในรูปที่เป็นเบาะใต้ต้นไม้
โซนนั้นเป็นมุมยอดฮิตของร้าน
นี่รีบถ่ายตอนที่เค้าเพิ่งเ
ที่นี่มีต้นไม้แทบจะทุกสายพันธุ์เ
แม้แต่แคคตัสจิ๋วก็มีเป็นแถ
เมนูที่เราได้ลองชิมก็คือ
ผัดไทยเกี๊ยวกรอบกุ้ง 75 บ.
กุ้งเน้นๆ เกี๊ยวกรอบๆ
ข้าวกะเพราหมูกรอบยั่วๆ 75 บ.
ทานคู่กับ Blue paradise soda 50 บ.
มันสดจื้นนนนนน
ไม่ได้มีแต่ของคาวเท่านั้นที่จัดจ้าน
ของหวานก็มีให้เลือกอีกหลาย
รสชาติดีแถมราคาไม่แรงเลย
อยากกินชิ้นไหน จิ้ม!
ใครมาเที่ยวเมืองกาญฯ ตามรอย
เพจ Bliss Out There ก็ต้องแวะนะ
อิ่มท้องกันแล้ว เดินทางต่อได้!
ขับรถต่อมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงที่พัก
ในคืนแรกของเรากันแล้วค่า นั่นก็คือออ
กอดอุ่น ริเวอร์แคว รีสอร์ท
ดูจากชื่อก็รู้แล้วเนาะว่ารีสอร์ทอยู่ติดกับล่องแม่น้ำ
ที่นี่มีห้องพักทั้งแบบวิลล่าสไตล์ลอฟท์
ราคาเริ่มต้นห้องละ 1,490 บ.
และแบบแพนอนบนน้ำ ราคาเริ่มต้น 1,690 บ.
แพนี่ก็มีให้เลือกอีกหลายแบ
เป็นกลุ่มเล็ก หรือกลุ่มใหญ่ อยากเห็นวิวแม่น้ำ
หรือวิวภูเขา ที่กอดอุ่นมีหมด
เช็คห้องพักและราคาห้องแต่ล
– inbox เพจ กอดอุ่น ริเวอร์แคว รีสอร์ท
– เบอร์ 082-755-2222
ช่วงสายๆ น้ำไหลไม่ค่อยแรงมาก
ถ้าใครอยู่แพก็คือโดดตู้มลง
ส่วนคนที่พักห้องวิลล่า ก็จะมีทางลงอีกทางนึงค่ะ
ทางรีสอร์ทมีเสื้อชูชีพให้เ
ไม่ต้องห่วงเรื่องว่ายน้ำไม่เป็นเด้อ
แล้วในช่วงเย็นถ้าน้ำไม่แรง
ทางที่พักมีกิจกรรมลอยคอเลา
ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ
จะมีทีมงานคอยไปดูแลด้วยเป็
รวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น
กิจกรรมนี้ฟรีน้า ใครอยากแช่น้ำเย็นๆ ก็ใส่ชูชีพโลดด
ที่เรียงๆกันอยู่นี่คือห้อง
บริเวณหน้าห้องจะเป็นโต๊ะไว้ทานมื้อเย็น
ทุกห้องจะเป็นวิวแม่น้ำเหมื
ต่างกันแค่ขนาดห้องและจำนวน
มาถึงห้องนอนของเราในคืนนี้
เป็นห้องวิลล่าสไตล์ลอฟท์ค่
( 1,490 บ. ต่อคืนรวมอาหารเช้า)
กระจกใสไปแล้วเกินครึ่งห้อง
ถึงวิวจะไม่ได้ธรรมชาติ 100% แบบนอนบนแพ
แต่ก็ไม่แย่น้า เดินออกไปหน้าห้องก็เป็นแม่
ส่วนภายในห้องนอนตกแต่งแบบวินเท
แต่เตียงคือนุ่ม แล้วแอร์ก็เย็นฉ่ำเลยนะขอบอ
จากหน้าห้องวิลล่า เป็นทางเดินริมน้ำ
เชื่อมไปจนถึงแพเลยค่ะ
ทางเราก็คือ เดินถ่ายรูปสู้แดดกันไปจนหม
ช่วง 4-5 โมงเย็นคือแดดลงอ่อนๆ พอดี
ถ่ายย้อนแสงกำลังสวยเลย
เดินไปเดินมาเจอเจ้าที่!
รู้สึกว่าต้องเซ่นไหว้ด้วยป
น้องคือขี้อ้อนมากเดินมาส่ง
ใครพักที่นี่ ไม่ต้องห่วงเรื่องจะหาของกิ
เพราะตอนค่ำทางรีสอร์ทมี หมูกระทะ!
นั่งกินกันตรงหน้าห้องนั่นแ
ชุดละ 400 บ. เนื้อหมูเน้นๆ ผักอีกถาดใหญ่
กินกัน 2 คนคืออิ่มมากก
(ช่วงค่ำหน้าฝนแบบนี้แมลงแล
ใครมาพักก็ใส่ขายาว พกยากันยุงมาเผื่อด้วยน้า)
ในส่วนของอาหารเช้าก็เช่นกั
ทางรีสอร์ทมีบริการมื้เช้าเ
รวมอยู่ในราคาค่าห้องเรียบร้อยค่ะ
ขนมปังปิ้ง โอวัลตินร้อนก็มีจ้า
ถือว่าประหยัดงบไปได้อีกมื้
เช้าวันที่ 2 มาถึงแล้วว
ระหว่างทางไปที่พักนั้น
เราก็ได้บังเอิญเจอกับ บ้านอนานัส ไทรโยค
ป้ายใหญ่แบบเด่นสะดุดตาเว่อ
ร้านนี้อยู่ระหว่างทางไปน้ำ
นอกจากจะเป็นคาเฟ่เล็กๆแล้ว
เข้าไปข้างในยังเป็นโฮมสเตย์ด้วยนะ
มองจากไกลๆว่าดีแล้ว
ลงรถปุ๊ปก็เห็นแบบในรูปเลยค่า
บรรยากาศของร้านดูอบอุ่น ให้ฟีลครอบครัว
ทั้งโซนเคาน์เตอร์หน้าร้านและโต๊ะอาหารด้านในเล้ย
อย่างที่บอกตอนแรกนะคะว่าร้
บวกกับยังอิ่มกันอยู่
เลยได้ชิมแค่ชาไทยไปอย่างเดียวเอง
เห็นร้านตกแต่งดีแบบนี้
แต่ราคาไม่แรงนะคะ ประมาณ 40 บ. เท่านั้น
ด้านนอกร้านอีกฝั่งนึงมีโซน
ตกแต่งได้น่ารักกรุบมาก
แต่เที่ยงวันแบบนี้ถ้าให้นั่งก็คงจะสู้แดดไม่ไหวค่ะ
น้ำคงละลายก่อนน ฮ่าๆๆ
อ้อ! แต่ถึงไม่ได้นั่งกินบนนี้แต่ถ้
ก็ขึ้นมาถ่ายรูปได้ตามสบายเ
เค้ามีพร็อพให้ถือเล่นด้วยย
ทางเราเองก็จัดไป 1 โพสต์ก่อนออกเดินทางกันต่อ อิอิ
ออกจากบ้านอนานัสกันแล้วขับ
ก็ถึงที่พักสุด private สำหรับค่ำคืนนี้กันแล้ว
เฌอโคว at หม่องกะลา นั่นเองจ้า
พอเข้าไปแล้วที่เห็นตรงหน้าเลยก็คือ บ้านหิ่งห้อย
บ้านเล็กๆกลางป่าที่เราจะนอ
ในบ้านหิ่งห้อยมีสิ่งอำนวยค
ทั้งแอร์ wifi เครื่องทำน้ำอุ่น และเตียงนู่มมมๆ
เหมาะสำหรับสายรักสบายที่อย
ขอแวะเล่าสู่กันฟังซักหน่อย
คำว่า เฌอโคว อาจจะดูไม่คุ้นปากเท่าไหร่
เป็นคำมาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า ขอบคุณ
เพราะคนพื้นที่แถวนี้มีเชื้
แค่ความหมายก็อบอุ่นแล้วอะ
ที่ เฌอโคว นี้มีบ้านทั้งหมด 4 หลังเท่านั้น!
ราคาแต่ละหลังตามนี้เลยฮะ
– บ้านหิ่งห้อยแบบที่เรานอน ราคาวันธรรมดา อยู่ที่ 2,000 บ. ต่อคืน
ศุกร์ , เสาร์ , วันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 2,300 บ. ต่อคืน
– บ้านปลายน้ำ (พัดลม) ราคาวันธรรมดา 1,500 บ. ต่อคืน
ศุกร์ , เสาร์ , วันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 1,800 บ. ต่อคืน
– กระท่อม มี 2 หลัง (พัดลม,ห้องน้ำรวม) ราคาวันธรรมดา 800 บ. ต่อคืน
ศุกร์ , เสาร์ , วันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 1,000 บ. ต่อคืน
ราคานี้รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนแล้วทุกหลังนะค้า
ใครต้องการความสงบแบบที่สุด
รีบจองที่พักด่วนๆ ลิงก์นี้เล้ย > เฌอโคว at หม่องกะลา
ได้เวลาเข้าบ้านกันแล้ว
เปิดเข้ามาเจอมุมเล็กๆสำหรั
สำหรับน้ำดื่มทางที่พักเตรี
ไม่มีขวดพลาสติกเลยนะจ๊ะ รักษ์โลก รักธรรมชาติสุดๆ
เตียงนอนที่นี่ กว้าง ใหญ่ นุ่ม สบายยยย
เฟอร์นิเจอร์ของบ้านหิ่งห้อ
การตกแต่งก็มินิมอลน่ารักไป
บันไดในห้อง มันคือไฮไลท์ของบ้านหิ่งห้อ
และนี่คือสิ่งที่เราเลิ้ฟมา
ขอเรียกว่าห้องใต้หลังคาแบบ
บอกเลยว่าสานฝันการมีห้องใต้หลังคาในวัยเด็กแบบสุดๆ
แถมข้างบนมีฟูกเสริมอีก 1 ที่นะ เผื่อใครมากับแก๊งเพื่อน
เพราะบ้านหิ่งห้อยนี้นอนได้ 2-3 คนเลยย
แกรร ห้องน้ำก็คือกว้างเกือบเท่า
แล้วสิ่งอำนวยความสะดวกก็คร
ที่สำคัญ บ้านแต่ละหลังของที่นี่จะถู
ตัดสลับกับลำธารใสๆ มีปลาโดดน้ำมาให้ดูเป็นระยะ
เป็นบรรยากาศแสนสงบที่หาไม่
มื้อเย็นนี้จัดเต็มสำรับมาก
ก่อนเข้าพัก 1 วัน จะมีพนักงานทักมาสอบถาม
ว่าต้องการอาหารเย็นด้วยมั้
พร้อมกับส่งเมนูมาให้เลือกพ
จิ้มไปเลย 2-3 อย่าง อร่อยทุกอย่าง
ปล.ในส่วนของอาหารเย็นไม่ได้รวมอยู่ในค่าห้องนะคะ
ต้องจ่ายแยกจ้า (เมนูในรูปของเรารวมแล้วทั้
ในส่วนของอาหารเช้า
เฌอโคว ก็ยังคงจัดเต็มเหมือนเดิม
เป็นเมนูข้าวต้มสูตรโบราณขอ
เสิร์ฟพร้อมกับโรลและโอวัลตินร้อนๆ
มาทั้งคาวทั้งหวาน อิ่มพุงกางแต่เช้าเลยค่ะ
ปล.อาหารเช้าสำหรับ 2 คน รวมอยู่ในราคาห้องพักเรียบร้อยจ้า
ทานมื้อเช้าอิ่มแล้ว ก็แพ็คของกลับกันเนอะ
ก่อนไปขออีก 1 แชะ สำหรับเฌอโคว
เป็นคืนสุดท้ายในกาญจนบุรี ที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ
นอนฟังเสียงแม่น้ำไหล เสียงแมลงตอนกลางคืน เสียงลมพัดใบไม้
ไว้จะกลับมาอีกแน่นอนน สัญญากับตัวเองแล้ว ( :
ได้เวลากลับเข้าเมืองกรุงกั
ระหว่างทางกลับขอแวะอีกคาเฟ่อีกซักร้านแล้วกันน้า
เพื่อนๆจะเที่ยวในเมืองกาญใ
เพราะร้านนี้อยู่ระหว่างทาง
The Attic l ดิ แอตติค นั่นเองง
ร้านเปิดบริการทุกวัน
– เวลา : 9.00 – 18.00 น.
– พิกัด : https://goo.gl/maps/
ขอยั่วแฟนเพจก่อนเลยด้วยรูป
บรรยากาศด้านในของร้านตกแต่
ด้วยกระจกใสยาวตั้งแต่พื้นสูงไปถึงเพดาน
จนเห็นท้องฟ้า มองออกไปก็เห็นวิวภูเขาไกลๆ
ทำให้ภายในร้านดูโล่ง โปร่งสบายตามากๆ
โชคดีมากวันที่เราไปท้องฟ้า
เลยได้รูปอย่างที่เห็นค่า
การตกแต่งร้านมีความขาวคลีน
แต่ก็ยังมีต้นไม้วางอยู่ทั่
ทำให้ร้านยังดูมีชีวิตชีวาอ
ด้านหน้าของร้านจะเป็นแบบปิ
มีช่องให้มองเห็นถนนแค่ 20% ของร้าน
ที่ออกแบบมาแบบนี้ก็เพื่อต้
มองวิว มองความสวยงามของธรรมชาติ
และปิดความวุ่นวายจากภายนอก
ซึ่งก็จะเชื่อมกับโซน out door ของทางร้าน
ที่ยังคงคุมโทนขาวเหมือนกับ
ทำเป็นบาร์สำหรับคนอยากมองอ
มาเสิร์ฟความหวานกันบ้างดีก
กับเมนูแรก burnt caramel pudding (79 บ.)
พุดดิ้งเนื้อนุ่มๆ รสชาติไม่หวานเลี่ยน
จะมีความขมนิดๆที่ปลายลิ้น
โปะด้วยวิปปิ้งครีมและบิสกิ
แล้วจบด้วยซอสคาราเมลเบิร์น
หื้มมม คำแรกก็ฟินแล้วค่า
หลังจากนั้นก็คือมาเป็นเซ็ต!
จานแรกคือ fudge brownie 60 บ. บราวนี่เนื้อหนึบ
รสช็อกโกแลตเข้มสะใจมากก
จานข้างๆกันขอเอาใจ matcha lover บ้าง
กับเมนู matcha banoffee 80 บ. เป็นเมนูใหม่ของร้านเลย
พนักงานบอกมาว่าชาเขียวนี่อิมพอร์ตมา
จากชิซึโอกะ 100% เลยนะคะ พรีเมี่ยมสุดด
ต่อมาเป็นเมนูน้ำกันบ้าง จากซ้ายไปขวานะคะ เริ่ม!
Salted caramel matcha (ขอเว้นราคาไว้ก่อนเพราะ
ทางร้านเพิ่งเริ่มขายวันที่
แต่รับรองว่าราคาไม่แรงและคุ้มชัวร์)
แก้วนี้หอมชาเขียวมากกก หวานกลางๆ
และมีรสคาราเมลที่ปลายลิ้น
Dark chocolate 70 บ. แก้วนี้กินคู่กับบราวนี่
แล้วจะหายอยากช็อกโกแลตไปอี
Ama lemon sods 45 บ. ตัดเลี่ยนกันด้วยความซ่า
ของมะนาวดองโซดาแก้วนี้เล้ย
ที่ใช้ชื่อ “อาม่า” ก็เพราะว่าแก้วนี้เป็นสูตรข
สองแก้วสุดท้ายเอาใจคอกาแฟกันบ้าง
กับเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้
The Attic Latte 75 บ. รสนมนุ่มๆ หวานน้อย
เบลนด์เข้ากับกาแฟได้ดีมว้า
ใครไม่ค่อยดื่มกาแฟ ถ้าได้ลองแก้วนี้ต้องมีเปลี่ยนใจแหละ
แก้วสุดท้ายคือ Yuzu Americano 95 บ.
มันคือความเข้ากันที่ลงตัวม
คอกาแฟต้องมาลองแล้วอะ พูดจริงงง
ทริปนี้น่าจะจุใจนะคะ สำหรับผู้ที่โหยหาการท่องเที่ยวเหมือนเรา
เพราะจังหวัดกาญฯอยู่ไม่ไกล
มาเที่ยวในช่วง weekend ยังได้เลย
ก่อนไปเที่ยวกันทริปหน้า
ฝากเพื่อนๆมากดไลค์เพจ Bliss Out There แบบติดดาวกันก่อน
แถมไอจีให้ด้วย IG : blissoutthere
แต่ถ้าใครยังไม่มีเวลาออกทริปเที่ยว
อ่านรีวิวทั้งหมดของเราไปพล
อยากให้ทุกคนได้มีความสุขไป
รักก แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ <3